โรเลนโซ่มั่นใจ ยามาฮ่าหาคนเทสธรรมชาติสร้างเพื่อ M1 ไม่ได้อีกแล้ว โอดตัดสินศักยภาพจากปอร์ติเมาดูเข้าใจยากไปหน่อย !

“เจ้าอมยิ้ม”ฆอเก้ โรเลนโซ่ เทสไรเดอร์สายรีวิวของยามาฮ่า แฟคทอรี่ทีม อนาคตในหน้าที่การงานของเจ้าตัวนั้นตกอยู่ในเครื่องหมายคำถามทันทีเพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ยามาฮ่าต้นสังกัดออกมาเปิดเผยว่ายังไม่มีข้อสรุปเรื่องแผนการทำงานของทีมเทส จึงไม่สามารถการันตีตำแหน่งให้บุคลากรที่ทำงานในส่วนนี้ได้ เจ้าอมยิ้มจึงมีความเสี่ยงตกงานสูงขณะที่ยามาฮ่ามีข่าวเชื่อมโยงกับเทสไรเดอร์คนใหม่คือ อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ อ้าว !?

โรเลนโซ่สัมผัสได้ว่าผลการทดสอบล่าสุดที่ปอร์ติเมานั้นทำให้ยามาฮ่านั้นสงสัยในความสามารถในปัจจุบันของเจ้าตัว แต่พี่หลามเองก็ยืนยันว่ามันยากไม่น้อยในการกลับมาขับรถแข่งในรอบ 8 เดือนแถมเป็นรถโมโต จีพีในสนามสุดยากด้วย แต่หากจะเด้งเค้าจริงก็มั่นใจว่ายามาฮ่าจะหาคนที่รู้สึกทุกเซลล์ของ M1 แบบเค้าไม่ได้แล้ว 

ฆอเก้ โรเลนโซ่

“........ก็อย่างที่บอกผมต้องการเป็นเทสไรเดอร์ต่อ และตัวเลือกแรกของผมก็ยังคงเป็นกับยามาฮ่า นั่นเพราะผมประสบความสำเร็จกับพวกเค้าและผมมีความรู้สึกที่ดีกับรถแข่งของยามาฮ่ามาก แต่นอกจากยามาฮ่าแล้วก็มีตัวเลือกอื่นๆ เช่นกัน

ไม่นานมานี้ผมได้ฟังแผนจากทางญี่ปุ่นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเค้าจะดำเนินการต่อในปีหน้า แน่นอนว่าต้นสังกัดปัจจุบันของผม(ยามาฮ่า)ย่อมต้องมีความสำคัญกว่าเสมอ เพราะความเป็นกันเองกับการใช้ชีวิตที่ผมสนิทกับทุกคนที่นี่ ผมประสบความสำเร็จที่นี่ ยามาฮ่าคือรถแข่งแบนด์เดียวที่ผมเคยเป็นแชมป์โมโต จีพีด้วย และเพราะ M1 คือรถแข่งที่เป็นธรรมชาติกับผมมาตลอด

แต่มันก็ดีหากได้แขวนหมวกกับอพลิเลีย ผมเริ่มต้นกับเดอร์บี้ก็จริงแต่เดอร์บี้ก็เป็นของพวกเค้า ผมได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกกับอพลิเลียด้วยและก็ชนะกับพวกเค้า 2 สมัย(WGP250) มันจะดีหากได้กลับมาร่วมงานกันอีก แม้นว่ามันเป็นตัวเลือกที่ลำบากกว่า M1 เพราะรถคันนั้นคือรถที่เข้ากันกับผมได้ดีที่สุด

แต่ถ้าดีลนี้มันทำให้พวกเค้าปรับปรุงศักยภาพของรถแข่งได้มันก็น่าสนใจ อาจจะเหมือนดานี่ที่เคทีเอ็ม พวกเค้ารับฟังนักแข่งและก็เห็นผลตอบแทนที่ดี การทำงานนี้ที่ยามาฮ่ายังไม่เห็นผลมากนัก นอกจากนี้ผมยังเห็นว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์กับอันเดรีย เอียโนเน่ หากว่าเค้าสามารถกลับมาแข่งได้อีกครั้ง

บทบาทเทสไรเดอร์ของผมที่ยามาฮ่า จริงๆ แล้วมันทำให้ผมและค่ายต่างรู้สึกเจ็บปวด เพราะถ้าไม่มี COVID – 19 มันจะเป็นแผนที่ทำให้เรานั้นสร้างประโยชน์ได้อย่างมาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือทำให้ยามาฮ่าไม่สามารถใช้งานและได้ประโยชน์จากผม มีแค่สองวันกับรถเก่าที่เซปังและวันกว่าแบบเผาๆ ที่ปอร์ติเมา

ผมคิดว่าที่ปอร์ติเมาทำให้ยามาฮ่านั้นเกิดคำถามเกี่ยวกับศักยภาพของผม ในเดือนมิถุนายนผมได้รับการแจ้งจากยามาฮ่าว่าจะไม่มีกำหนดการเทสอีกแล้ว ดังนั้นผมจึงได้ผ่อนการเทรนนิ่งลง แต่จู่จู่มัลลิเกลลี่ก็โทรมาบอกว่า จะไปเทสที่ปอร์ติเมาเพื่อเกียมความพร้อมซึ่งสนามแห่งนั้นจะใช้แข่งขัน ผมรีบกลับมาเทรนเต็มแม็กซ์อีกครั้งเท่าที่จะทำได้ เวลามันน้อยมาและผมไม่สามารถเข้าสู่สภาพที่ลงตัวได้

นอกจากนี้แล้วคือผมไม่ได้จับรถแข่งโมโต จีพีมา 8 เดือนแล้ว ซึ่งมันเป็นรถที่เรียกว่าที่สุด ทุกอย่างมันสูญหายไป กว่าจะเรียกความรู้สึกกลับมาได้คุณต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ 2-3 วัน นอกจากนี้ยังเป็นสนามที่ยากอย่างปอร์ติเมาด้วยรถแข่งขันเก่ากับเวลาที่น้อยนิด

ผมรู้สึกว่าพวกเค้าเริ่มสงสัยในศักยภาพของผมหลังการทดสอบนี้ แต่ผมว่ามันไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ที่จะเอาผลนี้มาตัดสิน ตัดสินเพียงเพราะผลการทดสอบที่ปอร์ติเมา เมื่อมองถึงสิ่งที่ผมเคยทำได้ หรือมองย้อนไปที่เทสที่เซปัง แต่ท้ายที่สุดการตัดสินใจก็อยู่กับพวกเค้า

ผมต้องการที่จะเทสต่อไปกับพวกเค้า แต่ถ้ายามาฮ่าต้องการที่จะยุติผมก็คิดว่าน่าจะเป็นความเสียหายทั้งสองผ่าย ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเค้าจะหานักขับที่เข้ากับธรรมชาติของรถแข่งยามาฮ่าได้อย่างแท้จริงได้ รวมถึงความไวในการจับความรู้สึกในรถ จุดต่างๆ ของรถ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนารถแข่งได้”

MTF มี Channel YOUTUBE แล้ว #ฝากติดตามด้วยครับ
https://www.youtube.com/channel/UCx83j-F4TqDylE7SqbkvLuw?view_as=subscriber

MTF มีกลุ่มเปิดแล้ว
https://www.facebook.com/groups/668603413931376/

ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก MICHELIN
สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนรายการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ #singha #singhaworldofspeed #singhacorporation #motogp #Singhaworldofspeed2020 #singhamotorsport #singhamotoGP

Sign
NEXT RACE: Gran Premio GoPro de Aragon