มาโก้ "เดอะฟู"ซิมอลเคลลี่
นักเเข่ง "หัวฟู" ที่แม้แต่เหายังต้องพึ่งเข็มทิศจากอิตาลีคนนี้ เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 1987 ตลอดชีวิตของเด็กหนุ่มผู้นี้ เหมือนเค้าจะถูกเขียนมาเพื่อให้เกิด เเละจากไปด้วยมอเตอร์ไซค์ ซิมอลเคลี่ ใช้ชีวิตกับ "รถเเข่ง" ตั้งเเต่เด็ก เค้าเริ่มไปนั่งบนเจ้าสองล้อเเละเริ่มต้นเเข่งขัน ในวันเพียง 9 ขวบเท่านั้น ในปี 1996 ในราการ "อิตาเลี่ยน มินิโมโต เเชมเปี้ยนชิพ" เเละฉายเเววเป็นนักเเข่งระดับโลกทันที
เด็กน้อยผู้นี้คว้าเเชมป์ได้ในปี 1999 เเละปี 2000 เเละในปี 2000 นี้เองกระดูกดูเหมือนจะเเข็งเกินวัย เมื่อซิมอนเคลี่ คว้าเเชมป์เดียวกันนี้ได้ เเต่เป็นการเเช่งขันในเวทีชองยุโรปเลยทีเดียว เเละนั่น คือจุดเริ่มต้นให้เค้าก้าวเข้าสู่การเเข่งขันในระดับโลก
ซิมอลเคลี่ หนุ่มน้อยในสังเวียน กรังปรีด์
หลังจากประสบความสำเร็จในการเเข่งขันภาคพื้นยุโรปอย่างเหลือล้น ในรุ่นการเเข่งขัน 125 ซีซีนั้น เป็นบันไดให้ซิมอลเคลี่เข้าร่วมกันเเข่งขัน "เวิลด์ กรังปรีด์" ครั้งแรก เวิลด์ จีพี การเเข่งขันชิงเเชมป์ความเร็วเพื่อเป็น "เเชมป์โลก" ในปี 2002 ซิมอลเคลี่วาลลวดลายอยู่ในคลาส "เผ็ดเล็ก" ในช่วงปี 2002 - 2005 เเละจบการเเข่งขันล่าสุดในอันดับที่ 8 ขยับขึ้นมาในคลาสกลางที่ จีพี 250 ในปี 2006 จนเรื่อยมาถึงปี 2009 เเละในรุ่นนี้เอง ซิมอลเคลี่ได้ร่วมงานกับทีมงาน Metis Gilera ทีมงานการเเข่งขันจากบ้านเกิดของเจ้าตัวนั่นเอง ในคลาสนี้ซิมอลเคลี่ต้องต่อสู้อย่างหนัก เเต่ผลงานก็ออกมาได้หายเหนื่อยเลยทีเดียว
ชัยชนะครั้งเเรกในรุ่น 250 ซีซี ของซิมอลเคลี่ เกิดขึ้นในปี 2008 ที่ "มูลเจลโล่" ราการ "อิตาเลี่ยน กรังปรีด์" ด้วยสไตส์การขับขี่ที่เรียกได้ว่า เเลกเป็นเเลก ถึงลูกถึงคน เเละการเป็นคนที่มีอารมณ์ขันเเละบุคลิกยียวน ทำให้เค้าเป็นนักบิดที่มีเอกลักษณ์เเละเเรงดึงดูดมากมายเลยทีเดียว
ครั้งนึง ซิมอลเคลี่ เคยปิดไลน์ "เฮคเตอร์ บาเบล่า" เรียกว่า "ปิดดื้อๆ" ในโค้งสุดท้ายของการเเข่งขัน เพื่อรักษาชัยชนะให้อยู่กับตัวเอง บาเบล่าไม่อาจขัดขืนต้องยก เเละวันนั้นเค้าชนะบาเบล่า 3 วินาที มันนับเป็นช็อตที่หวาดเสียว ทางทีมงานบาเลล่า เรียกร้องให้มีการปรับเเละลงโทษซิมอลเคลี่กับการขับขี่ที่เป็นอันตรายเช่นนี้ เเต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเหตุการณ์ครั้งนั้นเเต่อย่างไรก็ดีเค้าได้รับการตัดเตือนจากทีมงานเซฟตี้ของผู้จัดการเเข่งขันถึงการขับขี่ของเค้าเช่นกัน (และเจ้าฟู นางก็ยักไหล่ใส่ตามสไตล์ส)
ซิมอลเคลี่ ต้องฟาดฟันกับนักเเข่ง กระดูกเหล็ก หลายๆ คนในคลาสนี้ ไม่ว่าจะเป็นคู่กัดอย่าง เฮกเตอร์ บาเบล่า หรือ อัลบาโร่ บาติสต้า ซิมอลเคลี่ถึงจุดสุดยอดที่วงเวียนยี่สิบสอง เอ๊ย จุดสุดยอดในการแข่งขันรุ่นนี้ในปี 2009 เมื่อเค้าคว้าเเชมป์โลกได้ หลังจากจบอันดับสุดท้ายบนโพเดี้ยมในอันดับสาม ที่เซปังประเทศมาเลเซีย เเละในเดือน มิถุนายน ซิมอลเคลี่ตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้ง กับการก้าวขึ้นมาสู่การเเข่งขันในรุ่นโมโต จีพี ด้วยการตอบตกลง มอบลายเซ็นต์ให้กับทีม ซาน แคโรล กรอสซินี่ ฮอนด้า ซิมอลเคลี่ กับลีลาเเฮปปี้สุดสุด ด้วยการคว้าเเชมป์ในรุ่น 250 ซีซี
2010 ซิมอลเคลี่ โมโต จีพี ไรเดอร์
เจ้าหูฟูจากอิตาลี เด้กน้อยเมื่อไม่กี่ปี มาพบตัวเองอีกครั้งกับการเเข่งขันที่เรียกว่า เป็นจุดสูงสุดของการเเข่งขันสองล้อจ้าวความเร็ว ถึงเเม้ปีเเรกดูเหมือนจะตะกุกตะกัก เมื่อเจ้าตัวต้องเริ่มการเเข่งขันช้ากว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า เพราะซิมอลเคลี่ประสบอุบัติติเหตุในการซ้อมช่วงก่อนเปิดฤดูการ ในปีนี้ซิมอลเคลี่จบการเเข่งขัน ในอันดับที่ 16 คว้ามาได้ 125 คะเเนนน เเต่นั่นมันเกิดจากที่เค้าเข้าร่วมการเเข่งขันเพียงเเค่ 8 สนามเท่านั้นเอง
2011 ซิมอลเคลี่ถูกจับตาว่า จะเป็นดาวจรัสเเสง เค้าตอบคำถามต่างๆ ด้วยอันดับที่ 5 ในสนามเเรกของการเเข่งขันที่การ์ตา ซิมอลเคลี่เริ่มติดตาเเฟนๆ สองล้อโลกด้วยลีลาการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้า เเละการพาตัวเเข่งของเค้าขึ้นไปฟัดกับ"บิ๊กทีม" ได้หลายๆ สนาม ความมุ่งมั่นที่เกินร้อย ทำให้เค้าพาสองล้อคู่ชีพเล่นกายกรรมหลายสนามเหมือนกัน จนไปถึงกระทั่งการตอบคำถามสื่อที่ยียวนกวนประสาท เเต่นั่น คือทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นมาโก ซิมอลเคลี่ คุณอาจจะปวดหัว คันมือคันเท้ากะลีลาของเค้า เเต่สาบานได้
"คุณจะรักเค้า.....มาโก ซิมอลเคลี่"