ทำไม Yamaha ยังลังเลระหว่างเครื่องยนต์ V4 และ 4 สูบเรียง ? #SpecialScoop

Yamaha YZR - M1 เป็นรถแข่งเวอร์ชั่นเดียวในสนามโมโตจีพีตอนนี้ที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์แบบ V4 ซึ่งตอนนี้มีความพยายามอย่างหนักในการต่อสู้ในสนามแข่ง หลังจากการคว้าแชมป์โลกได้เมื่อปี 2021 รองแชมป์โลกเมื่อปี 2022 “เอลดิอาโบล”ฟาบิโอ กวาตาราโร่ นักแข่งที่ดีที่สุดของยามาฮ่าเวลานี้ หล่นลงไปจบอันดับที่ 10 ในปี 2023 และอันดับที่ 13 ในปี 2024

อย่างไรก็ตาม “ส้อมเสียง”ยามาฮ่า พยายามอย่างมากที่จะค้นหาทางออกในเรื่องนี้ด้วยการยกระดับศักยภาพเครื่องยนต์ โดยที่ตระหนักรู้ควบคู่ไปด้วยว่า แชสซีที่มีศักยภาพเป็นมิตรกับนักขับด้วย เพราะต้องไม่ลืมและยอมรับความจริงว่า แม้นเครื่องยนต์จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ฟาบิโอ กวาตาราโร่กลับทำเวลาต่อรอบได้ช้ากว่าในอดีตในสนามเดียวกัน หมายความว่า แพคเกจมันต้องไปด้วยกันไม่เพียงแต่เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังเท่านั้น

สวนทางกับเครื่องยนต์แบบ V4 ที่มีการยกระดับอย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังงาน ด้วยมิติความแคบของเครื่องยนต์ทำให้สามารถออกแบบแอโร่ไดนามิคได้กว้างและมีออฟชั่นมากกว่า นั่นทำให้เมื่อพิจารณาสถานการณ์เวลานี้นั่นเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ยามาฮ่าจะย้อนมาโฟกัสถึงความเหมาะสมเกี่ยวกับรูปแบบเครื่องยนต์ที่พวกเค้าใช้ในเวลานี้ คือ 4 สูบเรียงยังตอบโจทย์หรือไม่

ไซม่อน เคร์ฟ่า อดีตนักแข่ง อดีตนักข่าวและอัพขึ้นไปรับงานกับโมโตจีพีในเวลานี้ ให้ทัศนะเกรียบเทียบจุดแข็งจุดอ่อนระหว่างเครื่องยนต์แบบ V4 และ 4 สูงเรียงเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

ไซม่อน เคร์ฟ่า

“......เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง เสื้อสูบมันโน้มไปข้างหน้าครับ ดังนั้นน้ำหนักมันไปข้างหน้ามากกว่า ให้ฟิลลิ่งที่ด้านหน้าได้ดีกว่า ความเร็วในโค้งมากขึ้น แต่นั่นแลกมากกับสัมผัสหรือกริปที่ด้านหลังน้อยลง มันทำให้พบกับปัญหาเรื่องการยึดเกาะเมื่อเร่งออก การชาร์จออกจากโค้งเป็นเรื่องยาก”

ขณะที่เครื่องยนต์แบบ V4 มี 2 สูบโน้มไปข้างหน้าและ 2 สูบแยกมาข้างหนัง แบบนี้มีน้ำหนักมาที่ด้านหลังมากกว่าแบบ 4 สูบเรียง อย่างไรก็ดีสัมผัสและฟิลลิ่งด้านหน้าจะน้อยลงด้วย ความเร็วในโค้งจะน้อยกว่า แต่การหยุดรถรวมถึงการเดินออกจากโค้งด้วยการอัดพลังลงพื้นจะทำได้ดีกว่า เครื่องยนต์สามารถทำพลังงานออกมาใช้จริงได้มากกว่า มีความแคบกว่า เป็นประโยชน์ในด้านอากาศพลศาสตร์ นั่นทำให้ได้มาซึ่งความเร็วสูงสุดด้วย เมื่อบวกกับเทคโนโลยีสมัยนี้ที่มีการปรับลดระดับความสูงของรถ เพื่อส่งเสริมความเร็วและการเร่งออกจากโค้ง มันเป็นเป็นยุคทางเทคนิคที่เอื้อเครื่องยนต์แบบนี้

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียเปรียบของรถ V4 ก็ใช่ว่าจะไม่มี เมื่อชิ้นส่วนของมันที่มากกว่า มีโอกาสเคลื่อนไหวมากกว่า ความละเอียดอ่อนก็ตามมาด้วย ขณะที่แม้นเครื่องยนต์จะแคบกว่าแต่ไม่ได้หมายความรถจะแคบตามไปด้วยหากว่าไม่ได้รับการออกแบบแอร์โร่ที่ดี เนื่องจากเครื่องยนต์แคบแต่ความกว้างของรถถูกถ่างออกด้วยหม้อน้ำและถังน้ำมันเช่นเดิม จากความจุที่มีเกณฑ์บังคับ รวมถึงขนาดหม้อน้ำที่ต้องพื้นที่เพื่อระบายความร้อนให้ดี

ขณะที่เรื่องของการระบายความร้อน เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงมีความสามารถที่ไม่แพ้ V4 เลย เผลอ ๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ แต่โปรเจ็ค V4 ของยามาฮ่าที่กำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ไซม่อน เครฟ่ามีโอกาสได้พูดคุยและเผยว่า ยังไม่พบอะไรที่เป็นลบ แต่กระนั้นก็ยังไม่ได้พบอะไรที่เหนือกว่าแบบชัดเจน

นั่นคือสาเหตุที่ยามาฮ่ายังไม่ได้มีความชัดเจนว่า จะเลือกทางหนึ่งทางใด คือพัฒนา V4 แต่ก็ยกระดับหาทางเพื่อค้นหาศักยภาพเพิ่มเติมให้กับ 4 สูบเรียงด้วย เราจึงเห็นข่าวว่าทำ V4 แต่ไม่เคยเห็นลงสนามสักที ตรงกันข้ามนักแข่งทุกคนยังได้ทดสอบตัวแข่งและพัฒนา 4 สูบเรียงอยู่ ซึ่งถ้าโชคดีจะได้เห็นเจ้า V4 ลงสนามก็คือการทดสอบที่เซปัง

แม้นะมีโครงการที่จะมีศูนย์พัฒนาที่ยุโรป ในเวลาเดียวกันฐานทัพเดิมที่ญุ่ปุ่นและยังมีความสำคัญมากที่สุดนั้น พวกเค้ายังอยู่ห่างไกลมากกับจุดที่เรียกว่าจะทิ้งเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง เมื่อรู้จุดอ่อนของเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ปัญหาใหญ่อยู่ที่การกระจายน้ำหนักแล้ว พวกเค้าก็มุ่งเน้นที่จะลบจุดอ่อนนี้ ดังที่ซูซูกิที่ทำเครื่องยนต์แบบ 4 เรียงได้ผล 

อีกแรงสนับสนุนก็คือ กติกาปี 2027 ที่จะลดเครื่องยนต์ลงมาเหลือ 850 ซีซี ยามาฮ่าสามารถพัฒนาเครื่องยนต์นี้ไว้ได้เลยกับรูปแบบ 4 สูบเรียง ว่ากันว่าเชิงเทคนิคแล้วกับรถพิกัดนี้มันถูกฉโลกกับเครื่องแบบเรียงมากกว่า เหมือนดังที่ยามาฮ่ายิ่งใหญ่กับวาเลนติโน่ รอสซี่และฆอเก้ โลเรนโซ่ ระหว่างปี 2007 – 2011 ในยุครถแข่ง 800 ซีซี. นั่นเอง (เป็นแชมป์เกินครึ่ง)

ดังนั้นเป็นเรื่องยากมากสำหรับยามาฮ่าที่จะตัดสินใจในเวลานี้ และดูเหมือนว่ากำลังทำงานอยู่ 2 ด้าน คือจะรีดมันให้พีคตอนนี้เลย หรือวางแผนทำงานเพื่ออนาคตในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมตัดสินใจว่าจะเดินในแบบ 4 เรียงที่เก่งกาจ หรือนับ 1 ใหม่กับ V4 กันแน่

คุณคิดว่าไง ?

#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaThailandRacingTeam
#RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #No1RacingTeam
#YamahaSocietyThailand  #YamahaRidersclubThailand 
#RaceMachine #ARRC2024
#YamahaR6  #RW56 #AW24 #SuperSport600
#YamahaThailandRacingOfficialTest #AsiaRoadRacing

Sign
NEXT RACE: Gran Premio GoPro de Aragon