การแข่งขันศึกโมโต จีพี 2020 สนามเปิดฤดูกาล ยกยอดให้มิเดิลเวทคลาสอย่างโมโต 2 นั้นเป็นคู่เอกในอีเว้นไปโดยปริยาย จากความร้ายการของเจ้า COVID – 19 ซึ่งเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมานั้นรุ่นกลางได้เข้าสู่โปรแกรมการควอลิฟายตามกำหนดการปกติที่ได้จัดตารางเวลาเอาไว้หลังรองรับการหายไปของโมโต จีพี
ในรอบ Q2 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการควิลิฟาย นักบิดอิตาเลี่ยน ลูก้า มารินี่จากทีม SKY Racing Team VR46 กดเวลาต่อรอบทุบสถิติที่ 1'58.136 หลังจากนั้นไม่นานเป็นนักแข่งอเมริกัน โจ โรเบิร์ตจาก American Racing ทำเวลาต่อรอบทาบไปที่ตัวเลข 1'58.136 หรือเวลาเดียวกันเป๊ะๆ แบบที่มารินี่ทำได้ ท้ายที่สุดโพลโพซิชั่นตัดสินให้เป็นโจ โรเบิร์ตที่ได้ไปครอง หลายคนสงสัยว่า ทำไมเป็นเช่นนั้น
FIM เปิดเผยเรื่องนี้ว่า เมื่อเวลาของโจ โรเบิร์ตและลูก้า มารินี่ทำได้เท่ากันเป๊ะๆ พวกเค้าใช้หลักการตัดสินโดยไปดูที่เวลาต่อรอบว่า เวลาที่เร็วที่สุดรองลงไปนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ ปรากฎว่าโรเบิร์ตทำได้ เร็วกว่ามารินี่ (เอาเวลาต่อรอบที่ทำได้ของแต่ละคนมาเรียงลำดับ เร็วที่สุดของทั้งคู่นั้นเท่ากัน เร็วที่สุดอันดับที่สองของทั้งคู่เป็นเวลาของโรเบิร์ตที่ดีกว่า) เช่นนี้แล้วจึงตัดสินให้เป็นโจ โรเบิร์ตที่คาองกริดสตาร์ทอันดับที่ 1
สเตปนี้คล้ายๆ กับการวางแนวทางตัดสินแชมป์โลกในเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ คือหากคะแนนในตอนจบเท่ากัน ก็จะไปดูว่าใครคว้าแชมป์สนามได้มากกว่าก็จะได้เป็นแชมป์โลก หากยังเท่ากันอีกด็ไปดูที่อันดับรองแชมป์ อันดับสาม อันดับไล่ลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบความต่างที่ตัดสินแชมป์ได้นั่นเอง
ภาพประกอบข่าวจาก www.roadracingworld.com
สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนรายการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ #singha #singhaworldofspeed #singhacorporation #motogp #Singhaworldofspeed2020 #singhamotorsport #singhamotoGP