อเล็กซ์ รินส์ นักแข่งมาแชลฟีเวอร์ของคนบ้า ซูซูกิทีม หลังการแข่งขันโมโต จีพีสนามที่ 5 ที่เลอมังประเทศฝรั่งเศสจบลง คะแนนสะสมจากอันดับที่ 2 ที่ตามจ่าฝูงเพียง 1 คะแนนนั้น อันดับตกมาที่ 3 และตามผู้นำไปแล้ว 20 แต้ม แม้นเจ้าตัวจะออกมาเปิดเผยว่าไม่กระทบมากนักเพราะยังเหลือการแข่งขันอีกหลายสนามก็ตาม แต่กับสภาพอากาศและข้อแม้ต่างๆ ที่ค่อนข้างยากที่เลอมังแสดงให้เห็นว่า เค้าและซูซูกินั้นยังไม่แกร่งถึงขนาดที่จะคืนแบบไหล่ต่อไหล่กับแชมป์เก่าได้
รินส์เปิดเผยว่าที่เลอมังนั้นเค้าและซูซูกิพบกับความยากลำบาก แต่ก็ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกิดจากอุณหภูมิทีเย็นเฉียบหรือเลย์เอาท์ของสนามกันแน่ ที่แน่ๆ คือปัญหาที่รู้สึกได้จากรถนั้นคือปัญหาที่เคยสัมผัสมาแล้วเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถเคลียร์ให้จบได้
อเล็กซ์ รินส์
“.......ผมเริ่มต้นเกมส์แบบเน้นโคตรๆ และเต็มไปด้วยความหวัง แต่ปัญหามันก็ยังเหมือนกันกับรอบซ้อมแบบไม่ลดลงเลย เราสูญเสียศักยภาพในส่วนแรกๆ ของโค้ง จุดที่เราปล่อยเบรคเพื่อวิ่งเข้าหาโค้ง ในพื้นที่นั้น และถ้าผมพยายามบวกความเร็วในโค้งเข้าไปมากกว่าเดิม ผมก็จะสูญเสียการควบคุมยางหน้าไป มันแปลกเพราะว่าปีที่ผ่านมาเราก็เจอปัญหานี้(หมายถึง แปลกที่แก้ไม่หาย)
ปัญหาของรถแข่งมันยังเหมือนๆ เดิม แน่นอนเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงบางอย่างในรถแข่งปีหน้า เราต้องแก้ไขมันเพราปีที่แล้วมันก็เป็นแบบนี้
ปัญหานี้มันมากขึ้นที่เลอมังมากกว่าที่สนามอื่นๆ อาจจะเป็นที่อุณหภูมิต่ำ อาจจะเป็นที่ลักษณะของโค้ง เลย์เอาท์ของสนาม ผมไม่รู้แฮะ แต่แน่ๆ คือสนามนี้ผมรู้สึกถึงปัญหานี้มากกว่าคนอื่นๆ เราคว้า 6 แต้มจากเกมส์นี้ เงื่อนไขการแข่งขันต่างๆ (สภาพในสนาม)ไม่ใช่อะไรที่ดีเท่าไหร่ ความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก แบบที่คุณเห็นในโมโต 2 หรือโมโต 3 แม้นกระทั่งโมโต จีพีก็ตาม และผมก็โชคดีที่สามารถจบในท็อปเท็นได้
ยังไงก็ตามเราต้องทำงานของเรา เรามาที่นี่ด้วยอันดับที่สองในตารางคะแนนสะสม และแข่งจบเราตกมาที่สาม ผมคิดว่าไม่ค่อยใช่ปัญหาหลักเท่าไหร่ที่เกิดขึ้นที่นี่ เพราะยังมีอีกหลายสนามให้ลงแข่ง”
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก motograndprix.motorionline.com
Page/Twitter/YouTube : MOTO GP Thailandfanclub
Web : www.gpthailandfanclub.com
ขอขอบคุณ สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ การแข่งขันโมโต จีพี
#singha#singhaworldofspeed #singhacorporation#motogp#Singhaworldofspeed2019 #แค่คุณเปิดโลกก็เปลี่ยน