ลุงขี้เล่า : ก็แค่เกือบที่มูเจลโล่

ลุงขี้เล่า : ก็แค่เกือบที่มูเจลโล่

หากนับหัวกองเชียร์แข่งกัน แน่นอนว่าคนที่คว้าแชมป์คงเป็นวาเลนติโน่ รอสซี่ในเกมส์ที่มูเจลโล่…!!!

 

ไม่ได้มีงานบวชหรือขึ้นบ้านใหม่แต่อย่างใด หากแต่มันเป็นแมตท์แห่งความทรงจำของโก๋แก่เมดอินอิตาลีอย่าง “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ ที่ลงแข่งในรายการนี้ครบ 300 เกมส์ต่างหาก นับนิ้วคิดเล่นๆ สนามละ 25 รอบ เฉลี่ยรอบละ 4 กิโลเมตร นั่นหมายความว่าหมอนี่ขับรถแข่งเร่งเต็มสตีมความเร็วกว่า 300 กม/ชม. เอาชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้ายถึง 3 หมื่นกว่ากิโลเมตร หรือไปกลับกรุงเทพ เชียงใหม่สี่สิบกว่ารอบ ยิ่งถ้าบวกควอลิฟาย หรือซ้อมเข้าไปด้วย จะเบิ้ลไปอีกกว่าเท่าตัว (พ้ออออ.....ง)

 

ฤาหมอนี่จะเหน็บความเสียวไว้หว่างขานานเกินกว่ามนุษย์มนาจะมโนหาได้ !!!

 

อีกหนึ่งทีเด็ดในวันหวยออกที่ทุกคนจับตามองก็คือ ใครจะอาสาเป็นคนเบรคสถิติอันสวยหรูของเจ้าหนู “เด็กระเบิด” มาร์ค มาเกวซ ดาวรุ่งไฟพะเนียงจากเรปโซล ฮอนด้าทีม ที่ผลงานก่อนหน้านี้อ่านปากน้องนัชฌาออกเสียงว่า “5 สนามรวดนะคะ !!!” เอาไว้ได้

 

ยามาฮ่าคือหนึ่งเดียว ดั่งแสงไฟเล็กๆ ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำหัวหมา

 

“เจ้าอมยิ้ม” ฆอเก้ โรเลนโซ่ ที่สนามนี้ดูผ่อนคลายเหลือเกิน อาจจะเพราะแต้มโดนทิ้งห่างเป็นทุ่งกุลาร้องให้ เลยทำให้ไม่จำเป็นต้องเครียดก็เป็นได้ ทำให้รอยยิ้มหลายกิโลลงจอดบนใบหน้าของยอดคนเมือกระทิงดุแน่นเอี้ยด

 

และมันจริงดั่งว่า เมื่อผลควอลิฟายออกมาเป็นแถวหน้า ลำดับ 3

 

ตรงกันข้ามอาจจะเขิลเล็กน้อยในรายของวาเลนติโน่ รอสซี่ ที่วางแผนเรื่องยางผิด กลายเป็นลงไปขี่แบบเหวอๆ ในช่วงท้ายของการควอลิฟาย ตัวลีบเข้ามาในอันดับที่ 10 หรือแถวที่ 4 แล่นเอาสาวกที่เตรียมฉลองวาระพิเศษที่กางเต้นท์ รอล้มงัว ต้องโทรสั่งยกเลิกโต๊ะจีนไปเสียก่อน แนวออกตัวกลัวงานล่มนั่นเอง

 

เก็บ 9 คนรวดไอ้หนูมาร์คทำให้เห็นมาแล้ว แต่สำหรับรอสซี่ในวัยหนุ่มสาว(บันไดขึ้นบ้าน) จะทำอย่างนั้นได้หรือ....?

 

ไฟแดงดับลง ประหนึ่งปลาสวายวัดไร่ขิงพุ่งกระซวกก้อนขนมปัง ทุกลำกรูกันออกมาชิงจังหวะในโค้งแรกทันที คู่เอกของศึกนี้อย่างมาเกซและโรเลนโซ่รายงานตัวอย่างไร้ริ้วรอย โดยมีดูคาติของเอียโนเน่เสนอหน้ามาเป็นกับแกล้มชั้นดี

 

และแวปๆ หางตากับตัวแข่งหมายเลข 46

 

พักเรื่องหมอเบอร์ 46 ขาประจำของใครหลายๆ คนถึงขั้นผูกปิ่นโต(เอ๊ะ คนละหมอหรือเปล่า ?) เอาไว้ก่อน โยกมาดูที่การทำยุทธหัตถีระหว่างเจ้าพระยามาเคชติราช และขุนโรเลนพิชัยประหนึ่งศึกชิงบ้านชิงเมืองกันเสียก่อน

 

ดูท่าว่าจะเป็นการล้างหน้าไพ่ใหม่ และจับความเบื่อกล้ามโตไปนั่งยางให้สิ้นซาก…

 

ไอ้หนูมาร์คตกเป็นฝ่ายผู้ไล่ล่า เมื่อคู่ปรับวันนี้มาดีเหลือเกิน และรูโหว่เล็กๆ เพียงจิ้งหรีดขยับตัวได้ก็ยังไม่เปิดให้ขึ้นหน้าได้เลยแม้แต่น้อย การขับขี่แบบชิงจังหวะแบบหวาดเสียว ค่อมนอก เสียบใน ไซ้ซอกคอ ...(เฮ้ยๆ คนละเรื่องและ) มีให้เห็นครบรสชาด หากไม้พูดจนเกินไป มันน่าจะเป็นที่สุดของแจ้ในการแข่งขันช่วง 6 สนามแรกเลยก็ว่าได้

 

มาเกวซยกระดับตัวเองขึ้นมาอีกขั้น อาจจะเต็มกลืนหรือตั้งใจไม่มีใครทราบได้ แต่เจ้าตัวเลือกที่จะสะกดรอยตามรุ่นพี่ชาติเดียวกันอยู่หลายรอบ ก่อนที่จะขึ้นหน้าในช่วงปลายการแข่งขัน และเริ่มที่จะปิดเกมส์เอาไว้ในกำมือ

 

ช้าก่อนต๋อย โรเลนโซ่สู้มือขึ้นหน้าได้อีกครั้ง !!!

 

มันดูเหมือนว่าเวลาต่อรอบในหลายเซคชั่นของสนามมาเกวซจะเป็รองอยู่ และเจ้าตัวก็รู้เรื่องนี้ดี ตัวแข่งที่ทีมงานเซ็ทเกียร์ 6 มาให้ใหม่สำหรับรีดความเร็วในช่วงสุดเส้นคงจะไร้ประโยชน์ไปเลยหากเค้าแซงโร เลนโซ่ได้หลังผ่านเส้นชัยมาแล้วในรอบสุดท้าย

 

สุดท้างตรงก่อนเข้ารอบสุดท้าย คือจุดยุทธพิชัยจุดเดียวหากมาเกวซต้องการชนะในเกมส์นี้ !!!

 

หากมันเป็นการแซงเหมือนทุกรอบ ไม่แคล้ววัยสะรุ่นเรปโซลต้องเสร็จอมยิ้มเหมือนทุกๆ รอบ แต่การขึ้นหน้าครั้งสุดท้ายของมาเกวซกลับสอดใส้แท็คติกระดับเทพ เมื่อเจ้าตัวพาตัวแข่งวิ่งผ่านรถคู่ปรับได้แล้วก่อนพารถนอนในโค้งแรก ก็พับไลน์และลดความเร็วลงเล็กน้อยพอให้ผู้ที่ตามมาอย่างโรเลนโซ่เสียจังหวะ แตะเบรคและรอบเครื่องลดลง ซึ่งกว่าอมยิ้มจะรู้ตัว ไอ้หนูมาร์คก็ใส่เกียร์หมาไปแล้ว และจังหวะที่เสียไปก็เหนื่อยเหลือเกินที่จะถมได้ในรอบเดียว

 

ทริคชั้นอ๋องของมาเกวซเลยทีเดียว

 

หลายๆ เสียงชี้ว่า นี่คือทริคหากินของมาเกวซในตอนที่ลากเลื้อยอยู่ในโมโต ทู การเข้าลึก ตบปิดไลน์และถีบตัวแข่งชิงจังหวะออกไปอย่างรวดเร็วนั้น มาเกวซงัดมันออกมาใช้ประหนึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าในศึกที่สูสีสุดๆ แต่เราพึ่งเห็นมันครั้งแรกในปีนี้ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นการแข่งขันที่ยากจนอุจาระหักในเลยทีเดียว

 

สุดท้ายเป็นมาเกวซที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้อีกหนึ่งสเตป ชนะในเกมส์ที่คู่แข่งเหนือกว่าตัวเองได้ ส่วนโรเลนโซ่สนามนี้มาดีและอ่านเกมส์ขาด แต่กว่าจะรู้ตัวว่าอริรุ่นน้อมีทีเด็ดเป็นลูกชิ้นไว้กินตอนท้าย มันก็สายเกินไปเสียแล้ว

 

หันควับกลับมาดูที่อันดับที่ 3 กลายเป็นใครคนหนึ่งที่ขี่รอสเหมือนรอสซี่ เบอร์เหมือนรอสซี่ หมวกก็เหมือนรอสซี่ ใครวะเนี่ยเลียนแบบเหมือนยิ่งกว่าตัวจริงเสียอีก โถ......ไอ้บ้า ก็นั่นแหล่ะรอสซี่ตัวเป็นๆ เลยหล่ะครับ โอ้วววว..ซาร่า มันเป็นไปได้อย่างไรกันนี่........... อี้ อี้ อี้(เอ๊กโค่)

 

.........(ไอ้นี่เข้าขั้นและ พูดคนเดียวตบคนเดียว)

 

อันดับหนึ่งมาเกวซ อันดับสองโรเลนโซ่ และอันดับสามรอสซี่

 

นอกจากเกมส์ระดับห้าดาวแล้ว สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มาเกวซถูกเบียดลงบนไหล่ทางแต่ก็ประคองตัวเองกับเข้าสู่ถนนได้อีกครั้ง พูดง่ายๆ ก็คือเกือบที่จะโดนสอยลงจากคอนแล้ว ยิ่งจบเกมส์สุดยอดเพจระดับจักรวางแห่งหนึ่งในสยามประเทศรายงานว่า ได้หนูเด็กระเบิดเกร็งขนาดที่ยอมรับว่า เสียวกลิ้งแทบทุกโค้ง และก้มหน้าว่าเป็นการแข่งขันที่ยากระดับเคี้ยวก้อนหินก่อนซดจารบีล้างคอ

 

ยามาฮ่ากลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้งหลังจากที่หลงทางมานาน และน่าจะทำให้การแข่งขันที่เหลือนั้นแจ่มแมวยิ่งขึ้นสำหรับสาวกแนวฮาร์ดคอ ผู้ชอบเสพความโหดกลางแทร็คการแข่งขัน แฟนคลับมาเกวซเป่าปากโล่งอกหลังเข้าเส้น แฟนคลับอมยิ้มชดลมระบายความแค้นที่พลาดไปนิวเดียวก่อนเคี้ยวความคาใจกลืนลง คอรอสนามต่อไป ส่วนแฟนคลับอาหมอโทรไปง้อโต๊ะจีนในย่อหน้าที่ 3 อีกครั้ง

 

แหน่ะ เลื่อนไปดูว่าย่อหน้าสามจริงหรือเปล่า...ไมจริงหรอก หนูมั่วปั้นแหล่ะ แฮ่(กวนทรีนนนน นะครับ)

 

เกมส์ที่ไกล้เคียงคำว่าจืดชืด 5 สนามแรกกลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง ประหนึ่งซัดไวอากร้าแกล้มวาซาบิ ถึงแม้ว่าสิ่งที่โรเลนโซ่ทำเอาไว้จะไกล้เคียงกับคำว่า “เกือบ” แม้จะถูกแฟนคลับผู้ไม่แคร์สื่อหยันว่าแพ้เสี้ยววินาที หรือแพ้เป็นกิโลก็แพ้เหมือนกันก็ตาม แต่เกมส์คุณภาพสนามนี้กองเชียร์เข้าคูหากากบาทให้มันเป็นอีกศึกที่เริ่ดที่ สุดเลยทีเดียว

 

...ยินดีกับแชมป์ 6 สนามรวดของมาเกวซ

....ยินดีกับรองแชมป์และฟอร์มที่เข้ารูปเข้ารอยของโรเลนโซ่

....ยินดีกับรอสซี่ที่สวมวิญญาณวัลลี ลูกกตัญญูเอาชนะอุปสรรคนานามาได้

 

....และขอบคุณนักแข่งทุกคนที่ทำให้ศึกการแข่งขันสนุกตื่นเต้นกันทั้งบาง ขอบคุณสมาชิกแฟนเพจที่ทำให้หน้าเพจดุเดือดไม่แพ้กัน

 

....เจอกันสนามหน้า(จบดื้อๆ ยังงี้แหล่ะ อ้าว)

 

Sign
NEXT RACE: Qatar Airways Grand Prix of Qatar