มาร์ค มาเกซ แชมป์โลก 8 สมัยชาวสเปนของเรปโซล ฮอนด้าทีม เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับต้นสังกัดเป็นที่เรียบร้อยเมื่อช่วงบ่ายคล้อยที่ผ่านมาตามเวลาสยามประเทศ ซึ่งปีนี้ได้ทีมเมทคนใหม่ที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอย่างโจอัน เมียร์เข้ามาเติมพลังด้วย
มาร์คให้สัมภาษณ์กับสื่อสเปนอย่างโมโตซาน ดอท อีเอส ถึงสภาพความพร้อมในปีนี้ เป้าหมายและระดับของฮอนด้าว่าจะสามารถลุ้นความสำเร็จได้แค่ไหน ไปเสพกันเถิด ดังนี้
มาร์ค มาเกซ
“.......(สิ่งที่ขาดหายไปใน 3 ปีที่ผ่านมา) ความกดดันครับ ความกดดันเป็นสิ่งที่นักแข่งต้องเผชิญแต่ว่ามันจะมาเมื่อคุณมีความคิดที่จะคว้าชัยชนะ การตั้งเป้าแบบนั้นแสดงว่าคุณสร้างความกดดันให้กับตัวเองแล้ว นอกจากความกดดันสิ่งหนึ่งที่คุณจะได้เป็นของแถมก็คือคุณจะมีสมาธิและโฟกัสอย่างมาก ปีที่ผ่านมากความกดดันของผมอยู่กับตัวเองไม่ใช่ความกดดันที่เกิดจากความคิดที่จะชนะ คือผมคิดถึงความเป็นจริงและเช็คตัวเองในแต่ละวีคมากกว่า(ที่จะคิดชนะ)
เราเปิดตัวที่นี่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซึ่งการแข่งขันชิงแชมป์โลกยังไม่เริ่มต้นขึ้น แต่ประวัติศาสตร์ของทีมมันบอกเป้าหมายเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าเราต้องพูดถึงแชมป์ เมื่อเริ่มต้นและผ่านการแข่งขันเราจะรู้เองว่าเราอยู่จุดใหนเป็นไปได้หรือไม่ เวลานี้หากพูดถึงการคว้าแชมป์มันคือภาพลวงตาไม่ว่าสำหรับผมหรือโจน(โจอัน เมียร์)ก็ตาม
เมื่อการแข่งขันไม่ได้สำคัญที่สุดสำหรับคุณ เมื่อคุณหยุดทุ่มเททั้งหมดเพื่อมัน ผลลัพธ์ก็จะไม่เกิดขึ้น สิ่งนี้มันชัดเจนสำหรับผมและผมได้ทำมันในช่วงสามปีที่ผ่านมา ผมเสียสละทุกอย่างโดยการตัดสินใจครั้งสำคัญทั้งชีวิตส่วนตัวและอาชีพนักบิดของผม ด้วยเป้าหมายคือการกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง- เพื่อเป้าหมายคือการเป็นแชมป์อีกครั้งโดยไม่มีเหตุผลอื่นปนเลย เพื่อให้ชีวิตสนุกขึ้นและมันได้เรื่องนั้นมาเต็ม ๆ ผมตื่นเต้นอย่างมากกับโปรเจ็คที่รอเราอยู่ ผมเดินหน้าฝึกซ้อม ความสนุกที่ผมจะได้พบก็คือความกดดัน การแข่งขัน เรซเดย์วันอาทิตย์
ดีเอ็นเอ สไตล์ส และปรัชญาในการลงสนามของผมยังเหมือนเดิมครับ เหมือนเมื่อผมอายุ 20 เรื่องของเหตุผล ประสบการณ์ แนวคิดที่เก็บมาผมต้องเรื่องใช้ให้เกิดประโยชน์ให้ถูกเวลา มันจะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์ที่เข้มข้นมาก มีหลายเรซ มีหลายแต้มให้ต่อสู้กัน ทั้งสปริ้นส์วันเสาร์และเรซวันอาทิตย์ นี่คือเหตุผลที่ผมบอกว่า ต้องเข้มข้นอย่างตึงตลอดเวลา ยิ่งคุณมีอาวุธในมือมากเท่าไหร่ คุณก็จะมีตัวเลือกในการเลือกใช้กลยุทธ์มากเท่านั้น ยิ่งทำให้คุณสามารถจัดการสถานการณ์ได้มากขึ้น แต่ช่วงปีสองปีก่อนผมเหมือนออกไปขับแค่ตามสัญชาตญาณเท่านั้น
ที่ HRC เราทุกคนทำงานไปในทิศทางเดียวกันครับ สร้างรถแข่งที่เร็ว มีศักยภาพในการแข่งขันและในเวลาเดียวกันมันต้องปลอดภัย 5 เรซสุดท้ายตอนที่ผมกลับมาปรัชญาที่ว่ามันเปลี่ยนไป มันไม่เหมือนกับรถแข่งคันล่าสุดของผมก่อนที่ผมจะไปผ่าตัด เทสที่มาเลเซียค่อนข้างดีในมุมนี้คือไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าไหร่ แต่มันก็ยังยากที่จะรับสัญญาณอะไรแบบนั้น
ดังนั้น นั่นคือจุดที่จะบอกระดับอย่างแท้จริง(เมื่อมีสัญญาณอันตราย) ทั้งตัวผมและรถจะชัดเจนในบางมุม มีการทดสอบอะไรมากมายครัง ทั้งเรื่องของยาง การยึดเกาะ และความจริงคือทีมทำหน้าที่ในการทดสอบหลาย ๆ อย่างไม่ใช่แสดงให้รู้ถึงระดับที่แท้จริง
ปีนี้เราโชคดีที่มีคณะกรรมการด้านความปลอดภัยในรุ่นโมโตจีพีโดยเฉพาะ นักแข่งจะได้รับการรับฟังมากขึ้น การแข่งขันมันจะเข้มข้นดังนั้นมันจะมีการหารือกันครับ อย่างไรก็ตามต้องรอมันเริ่มก่อนเราถึงจะรู้ว่าเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ คือมันเข้มข้นแน่นอน
โจน(โจอัน เมียร์)เป็นแชมป์โลกโมโตจีพีมาแล้ว ลักษณะการขับของเค้าไปได้เร็วมาก ผมเห็นเค้าซ้อมหนักและเป็นนักแข่งที่มีทักษะดีมาก ตอนนี้ต้องรอให้การปรับตัวเข้ากับรถเกิดขึ้นเสียก่อน เค้าจะเป็นคู่หูคู่แข่งที่แข็งแกร่งและยอดเยี่ยมในทีมครับ ผมหวังว่าเค้าจะทำให้ผมเติบโตขึ้นด้วย และสถานะของฮอนด้าก็คือการมีนักแข่งที่พร้อมเป็นผู้ชนะทั้งสองคนในทีม การมีเค้าจะช่วยยกระดับศักยภาพในทีมไม่เพียงแต่ในมุมของนักแข่งแต่ในทีมแข่งของฮอนด้าทั้งหมดด้วย”
ลีโอ ผู้สนับสนุนการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ
#ลีโอโมโตจีพี #ลีโอรวมกันมันส์กว่า #ลีโอเชียร์โมโตจีพีด้วยกันมันส์กว่า #LEOPartnerofMotoGP #LEOMotoGP #Singhaworlfofspeed #SinghaCorporation