King of COTA
คิด วิเคาะห์ แยกแยะ กับการถิ่มแข่วที่สนามหากินของ “เด็กระเบิด”มาร์ค มาเกซ
(King อ่านว่า กลิ้ง)
ระบบอิเล็กทรอนิกซ์เข้ามามีบทบาทอย่างมากสำหรับตัวแข่งโมโต จีพีในยุคนี้ เรียกได้ว่ามีส่วนชี้ขาดชัยชนะไม่น้อยไปกว่ากำลังของเครื่องยนยต์และศักยภาพของตัวขี่เลยทีเดียว และจี้ไปที่พุงของตัวแข่งฮอนด้าทีมอย่างเจ้า Honda RC213v นั้น เอาประเด็นหลักๆ เรื่องของการเบรคและชาร์ทความเร็วออกจากโค้ง มันก็เข้ามามีส่วนในการปรุงกำลังของรถให้พอเหมาะเพื่อลากเลื้อยได้อร่อยหว่างขา
ชี้ประเด็นไปที่การวิเคราะห์ความน่าจะเป็นที่เป็นสาเหตุของการล้มดื้อๆ ของ “เด็กระเบิด”มาร์ค มาเกซ ในการแข่งขันโมโต จีพีสนามที่ 3 ที่ออสติน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็นสนามแข่งที่มาเกซแบเบอร์ 25 คะแนนเต็ม แต่กับเกมส์จริงสาวกไอ้มดแดงได้ช็อคตาค้าง เมื่อมาเกซล้มดื้อๆ แบบไม่ออกอาการอะไรให้เห็นในโค้งความเร็วต่ำซะอย่างงั้น
เรปโซล ฮอนด้า ไม่เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงออกมาสำหรับการล้มของมาเกซ(รวมทั้งครัชโลวว์และโรเลนโซ่) ได้แต่เพียงกล่าวกึ่งยิงกึ่งผ่านว่า น่าจะเกิดจากระบบอิลเกซ์ทรอนิกซ์ขัดข้อง ซึ่งแน่นอนมันเหมือนกับบอกว่าไฟไหม้เพราะไฟลัดวงจรนั่นแหล่ะ คือโคตรครอบจักรวาลประมาณว่า ตอบแบบนี้น้าอย่าตอบดีกว่า
อย่างไรก็ดี ตอบแค่นี้แหล่ะทำให้เรารู้แจ้ง ผ่ามมมม...!!!
ทุกๆ การพลิกโค้งหรือกระตุกคันเร่งของนักแข่ง ไม่เพียงแค่เครื่องยนต์เท่านั้นที่สะดุ้งตาม แต่ระบบอิเล็กซ์ทรอนิกซ์ของรถนั้นก็ต้องทำงานควบคู่ไปด้วย หนึ่งในระบบเทพที่เรปโซล ฮอนด้าทีมติดตั้งเอาไว้กับตัวแข่ง Honda RC213v ของพวกเค้าที่สำคัญก็คือ การใช้ระบบอิลเกทรอนิกซ์มาจัดการกับเอนจิ้นเบรค
หลายท่านอาจสงสัยคำว่า “เอนจิ้นเบรค” คืออิหยัง....ขออธิบายสั้นๆ ตรงนี้แล้วกันว่า เป็นการเบรคโดยใช้กำลังของเครื่องยนต์ เมื่อนักแข่งยกคันเร่งรถแข่ง(อาจจะมีการเชนเกียร์/ตบเกียร์ลงเสริม)กำลังของเครื่องยนต์จะเหนี่ยวเอารถไว้ ซึ่งมันเกิดขึ้นเมื่อนักแข่งยกคันเร่งลิ้นปีกฝีเสื้อก็จะปิดทำให้ไอดีที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นหายไปเครื่องยนต์จะเกิดแรงเหนี่ยว ซึ่งผลที่ตามมาคือ ล้อหลังจะหนืดจนเกิดการเบรคด้วยกำลังเครื่องยนต์นั่นเอง แต่มันจะรักษาโมเมนของรถยากและเป็นภาระกับนักแข่งหากล้อหลังนั้นลอย เพราะมันอาจจะทำให้ล้อล็อคได้(เรื่องนี้เกี่ยวกับวิงเลทของดูคาติด้วยที่ว่า ใช้มันมาเพื่อดูลอหลังเอาไว้กับพื้นตอนเอนจิ้นเบรค) คือมันมีผลดีมาช่วยหยุดรถอีกแรง แต่ผลเสียมันก็ยากตรงเดาการควบคุมลำบากนั่นเอง
ฤดูกาลนี้ฮอนด้าเสริมเขี้ยวเล็บด้วยระบบที่เข้ามาจัดการกับปัญหาดังกล่าว ด้วยการใช่ระบบอิเล็กทรอนิกซ์มาบริหารให้กลมกล่อม การทำงานของมันคือเมื่อมีการยกคันเร่งจนลิ้นปีกผีเสื้อปิดสนิทนั้น มันจะคำนวนกำลังเครื่องยนต์ รอบเครื่อง สถานะการลอยจากพื้นและการล็อคตัวของล้อหลัง ความเร็ว ประมวลกับองศาของรถ เพื่อเปิดลิ้นปีผีเสื้ออันใดอันนึง(ตามที่ทีมเซ็ท)ให้ไอดีผ่านเข้าไปได้และเกิดการเผาไหม้ ทำลายสูญญากาศการทำงานของเครื่อยนต์ลดการล็อคของล้อหลัง แต่ไม่มากพอที่จะเกิดความเฉื่อยกับกำลังของเคื่องยนต์ อีกทั้งส่งต่ออีกระบบที่จะรับลูกตอนชาร์ทออกจากโค้งไม่ให้รถสะดุ้งมากเกินไปนั่นเอง(ข้อมูลจาก box repsol ไว้จะมาเหลาให้ฟังอีกที)
ระบบนี้มันจะถูกใช้กับการที่ต้องหวดความเร็วมาสูงลิ่วและเชนเกียร์ลงมาแบบสุดๆ และมีการเปิดเผยว่ากับโมโต จีพี 2019 ที่แข่งกันมา 3 สนามนั้น ฮอนด้าทีมเอามันมาใช้จริงในการแข่งขันที่ออสตินเป็นที่แรก เนื่องจากเป็นสนามที่ต้องหวดยาวๆ และเชนลงมาแบบสุดๆ ในโค้งความเร็วต่ำ ซึ่งสถานที่เกิดเหตุของมาร์ค มาเกซนั้น ไอ้หนูลิ้นยาวเชนมันลงมาจนถึงเกียร์ 1 เลยทีเดียวจากความเร็วสูงสุดก่อนหน้าที่กดมากว่า 300 กม/ชม.
ว่ากันว่าระบบอิเล็กทรอนิกซ์น่าจะขัดข้องจากปากของอัลเบอร์โต้ พูอิกซ์นั้น ของดีสิ่งแรกที่ฮอนด้าทีมยัดเข้าไปด้วยความหวังอาจจะเป็นต้นเหตุที่พ่นพิษใส่พวกเค้าเองจนวืดเก็บแต้ในสนามที่ว่ากันวาแบเบอที่สุดก็ได้ มันเลยทำให้มาร์ค มาเซและฆอเก้ โรเลนโซ่ที่เหมือนจะขี่ง่ายแต่ก็ยาก และล้มแบบไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งภาพช้ามันเหมือนกับว่า องศาของล้อหลังและการทำงานของล้อมันหยุดดื้อๆ ขณะที่รถลดความเร็วลงมาพร้อมพับในโค้ง
มันขัดข้อง มันไม่ทำงาน มันเจ็บตรงมาเกิดขึ้นกับเกมส์จริง และหากมันคือเรื่องจริงคาดว่า มันไม่น่าจะถูกเปิดเผยอย่างป็นทางการจากปากของพวกเค้าเป็นแน่ เพราะมันคือความผิดพลาดที่ต้องหาทางแก้ให้เร็วที่สุด และแน่นอความคลาสิคของโมโต จีพีไทยแลนด์แฟนคลับยังคงมีอยู่เสมอหลังอ่านจบ ขอย้ำเตือนเหมือนเคยอีกครั้งว่า...
อย่าเชื่อแอ๊ด แอ๊ดเดาเอา !
ล้อหลังของ Honda RC21v เวอร์ชั่น 2019 ที่ซุกสายเซ็นเซอร์เก็บข้อมูลเอาไว้
ภาพสุดขยี้หัวใจของสาวกไอ้มดแดง
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก www.motogp.com
Page/TwitterYouTube : MOTO GP Thailandfanclub
Web : www.gpthailandfanclub.com
ขอขอบคุณ สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ การแข่งขันโมโต จีพี
#singha#singhaworldofspeed #singhacorporation#motogp#Singhaworldofspeed2019 #แค่คุณเปิดโลกก็เปลี่ยน