เอริค มาอี ผู้จัดการส่วนตัวของ “เด็กปีศาจ”ฟาบิโอ ควอตาราโร่ ที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นแชมป์โลกโมโต จีพีอยู่มะรอมมะร่อ ให้ทัศนะที่อาจจะเขย่าขวัญส้อมเสียงยามาฮ่าอยู่ไม่น้อย เมื่อควอตาราโร่ที่จะหมดสัญญาในสิ้นปี 2022 และยังไม่ต่อสัญญานั้น มาอีและนักแข่งในปกครองจะพิจารณาเรื่องสัญญาใหม่อย่างรอบคอบ และโอกาสยังเปิดรับจากทุกช่องทางเพื่อเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับยอดนักบิดฝรั่งเศสอนาคตไกลคนนี้
สิ่งที่ควอตาราโร่สร้างความต่างจากนักแข่งยามาฮ่าคนอื่น ๆ นั้นมันชัดเจนว่า มาจากศักยภาพของเจ้าตัว แม้นจะสะดุดร่วงไปถึงอันดับที่ 8 เมื่อซวซั่นที่ผ่านมา แต่มาอีก็ยืนยันว่าตัวจริงของควตาราโร่คือปี 2019 ที่ใช้รถสเปครองหวดกับมาร์ค มาเกซ หาใช่ผลงานเตี้ยกับแพ็คเกจที่เต็มไปด้วยปัญหาเมื่อปี 2020
เอริค มาอี
“.......ในความคิดของผม ศักยภาพที่แท้จริงของเค้าคือปี 2019 เค้าเป็นรุกกี้ของโมโต จีพีและต่อสู้กับมาร์ค มาเกซด้วยรถแข่ง Spec-B เพื่อให้เข้าใจถึงศักยภาพของฟาบิโอคุณต้องดูสิ่งที่เค้าทำในปี 2019 ไม่ใช่ 2020 ผมรู้ดีว่าปีที่แล้วทุกอย่างจบลงอยู่ในขั้นแย่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเดินหน้าต่อของเค้า
ปี 2020 เป็นอะไรที่ยาก เนื่องจากปัญหาโควิดเราพลาดการทดสอบ แถมมาเจอปัญหาเรื่องของวาวล์อีก เราชนะการแข่งขันสองครั้งที่เฆเรซ จากนั้นเกิดปัญหาเรื่องของวาล์ขึ้นมา ในบางสนามเราสูญเสียศักยภาพด้านอิเล็กทรอนิกซ์ ในบางสนามก็ขาดความพร้อม ฟาบิโอต้องรับมือกับสิ่งที่ไม่ใช่ปัญหาในเชิงเทคนิคจะรับมือได้แล้วฤดูกาลก็จบลงอย่างที่พวกเราเห็น
ปีที่แล้วเค้าอารมณ์ขุ่นมัวมากเนื่องจากผลมันออกมาห่างไกลจากที่เค้าคาดไว้มาก หลังจากผ่านมาเค้านิ่งขึ้นและได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากปีที่แล้ว อีกด้านก็คือปัญหาในมุมแพ็คเกจนั้นลดลงซึ่งมันทำให้เกิดความผ่อนคลายตามไปด้วย และบทเรียนในปี 2020 ทำให้มีศักยภาพในการจัดการอะไรต่าง ๆ นี่คือร่างจริงของนักแข่งที่ต่อสู้กับมาร์คด้วยรถสเปครองเมื่อปี 2019 นี่คือมาตรฐานของเค้า เค้าไม่ใช่ฟาบิโอคนใหม่ ไม่ได้มีอะไรมหัศจรรย์แต่เป็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นได้จริงจากเด็กที่มีความสามารถและแรงกระตุ้น
อนาคตของฟาบิโอ ควอตาราโร่ เค้าจะไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับเค้าที่สุด และ ณ เวลานี้ทุกอย่างเปิดกว้าง ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดใดสำหรับปี 2023 แน่นอนว่าควอตาราโร่มีความสุขกับสิ่งที่เค้าทำได้ แต่คุณต้องมองให้ออกว่ามันมาจากตัวของฟาบิโอ ไม่ใช่แพ็คเกจ(รถและออฟชั่นต่าง ๆ)ของเค้า มีโอกาสที่เราจะต่อสัญญาก่อนหมดอายุสักปีหรือครึ่งปี เราต้องดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น
มีอยู่ 2 ทีมกว่า ๆ ที่ติดต่อเรา สองทีมที่ชัดเจนและอีกทางหนึ่งยังดูไม่มีอะไรมาก เราจะประเมินในช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วยความไม่รีบร้อน ฟาบิโอยังเด็กและเค้ามีอนาคตยังรออยู่อีกไกล”
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก MICHELIN
สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนรายการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ #singha #singhaworldofspeed #singhacorporation #motogp #Singhaworldofspeed2021 #singhamotorsport #singhamotoGP