“เด็กระเบิด” มาร์ค มาเกซ ยืนยันเป้าหมาย RC213v ไม่ใช่รถของมาร์คแต่คือรถของนักแข่งฮอนด้าทุกคน เผยกลิ้ง FP1 สภาพสนามไม่คลีน

“เด็กระเบิด” มาร์ค มาเกซ จากการครอบครองพื้นที่การทดสอบ FP1 เจ้าตัวมาล้มในรอบบ่าย FP2 ซึ่งนักแข่งสเปนของเรปโซล ฮอนด้ายังยืนยันชัดเจนเหมือนเช่นสนามที่ผ่านมาว่า การซ้อมแต่ละเซสชั่นของเค้าคือการเก็บข้อมูลด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อร่วมกับทีมในการพัฒนาตัวแข่งปี 2022

มาร์ค มาเกซปฏิเสธชัดเจนเกี่ยวกับทฤษฎีที่ว่า Honda RC213v นั้นเป็นรถของเค้าและถูกสร้างมาเพื่อเค้า เพราะตอนนี้ HRC ต่างให้น้ำหนักแก่นักแข่งคนอื่น ๆ เพื่อเก็บข้อมูลจากองค์ประกอบที่แตกต่างกัน เพื่อได้สิ่งที่ชอบจากนักแข่งที่แตกต่างกัน และเป้าหมายคือร่างสมบูรณ์ของ RC213v

มาร์ค มาเกซ

“.......ความผิดพลาดใน FP2 อเล็กซ์ไม่ได้ขวางผม ผมตามเค้ามาจากข้างหลังซึ่งผ่านทางตรงที่ยาวมาก ๆ มันมีลมดูดเข้ามา ผมเสียการควบคุมไปและล้นออกมาตรงนั้นพื้นแทร็คค่อนข้างสกปรกผมก็เลยล้ม

หลังจากการล้มเราได้ปรับเปลี่ยนแผนเล็กน้อย เราลองใช้ยางซอฟท์ในช่วง FP1 และ FP2 เพื่อให้ได้ข้อมูลในช่วงเวลาที่ทำการแข่งขันจริง แต่ในขณะเดียวกันเราสามารถทดสอบยางฮาร์ดได้ คือการล้มมันเป็นอะไรที่ผมหัวเสียมาก เพราะผมคิดว่าทุกอย่างสามารถควบคุมได้ ผมดูดอเล็กซ์มาและผมเลือกที่จะไม่ดวลต่อด้วยการบานไลน์ออกมา คือไม่จำเป็นต้องแซงให้ได้เพราะนี่เป็นเพียงการซ้อม แต่พื้นที่ที่ผมล้นออกมาพื้นแทร็คมันสกปรกแล้วผมก็ล้ม

(ทำไมไม่เงยรถตั้งตรงแล้วจะเซฟกว่า ?) คือผมคิดว่าผมยอมแพ้และเลือกที่จะเซฟแล้วครับ ไลน์ที่กว้างออกมาก็เซฟแล้วและทุกครั้งที่ผมขับมันก็สามารถควบคุมได้ตลอด คือผมมั่นใจว่าคุมทุกอย่างได้นั่นแหล่ะ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผล ผมล้มลงเพราะอย่างที่บอก

HRC มีการเปิดตัวแชสซีใหม่ที่มีการอัพเดทที่สนามเอสเซ่น ผมได้ทำงานกับมันครั้งแรกที่นั่น ในการแข่งขันครั้งแรกที่ออสเตรียเราได้ตัวที่อัพเกรดขึ้นมาอีกมาใช้งาน แต่การแข่งขันครั้งที่สองที่ออสเตรียเรากลับไปใช้อันใหม่เวอร์ชั่นแรกที่ใช้ที่เอสเซ่นรวมถึงที่ซิลเวอร์สโตน และวันแรกที่อารากอนผมก็ใช้ตัวของเอสเซ่นทั้งหมด ยังไม่ได้ลองตัวอีกเดทใหม่ที่เราทำการทดลองร่วมกันอยู่

แชสซีที่เอสเซ่นทำให้ผมมีความมั่นคงมากกว่า โดยเฉพาะกับโค้งความเร็วสูง อย่างที่ผมบอกเราใช้งานมันที่เอสเซ่น แต่ที่ออสเตรียเราได้ทดลองสิ่งใหม่และใช้มันด้วยเนื่องจากมีข้อมูลแล้วว่ามันใช้งานได้ดี ที่มิซาโน่สนามต่อไปเราก็จะยังมีการทดสอบอีก ซึ่งเราต้องเข้าใจว่าเราจะเดินไปในทิศทางใหนในพื้นที่ของแชสซี

นักแข่งฮอนด้าคนอื่น ๆ ก็ใช้แชสซีที่แตกต่างกันครับ ผมก็ใช้แบบที่ไม่เหมือนพวกเค้า มีหลายครั้งที่คนอื่น ๆ ได้ลองใช้แบบที่ผมใช้ บางทีพวกเค้าก็ชอบบางทีก็ไม่ เรายังสับสนอยู่แต่การทำงานที่พิทมันค่อนข้างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แล้วครับ ผมแค่ต้องเข้าใจจากที่นี่และมิซาโน่ว่าจะไปทิศทางใหนสำหรับสไตล์สการขับของผม

แชสซีสามารถปรับได้ระหว่างฤดูกาล นี่เป็นพื้นฐานที่ยังต้องดูการทำงานที่ญี่ปุ่นต่อว่าจะไฟน่อลยังไง พวกเค้ากำลังพยายามทำความเข้าใจแนวคิดที่แตกต่างกันอยู่ สไตล์สที่แตกต่างกัน และตัดสินใจร่วมกันเพื่อเริ่มต้นสำหรับตัว 2022 เรามีการทดสอบมากมาย ไม่ใช่แค่สำหรับปีหน้าเท่านั้น ตอนนี้เราสามารถแยกแยะแชสซีเป็นระดับแล้วว่ายังไง นั่นคือเหตุผลที่เราเอาอะไรลงไปเทสตลอด เพื่อไม่ให้หลงทาง เราก้าวทีละก้าว

เป้าหมายในการพัฒนาตัวแข่ง เรากำลังมองหามอเตอร์ไซค์ที่ง่ายกว่า เร็วกกว่า ยึดเกาะได้มากกว่าและเลี้ยวได้ดีกว่า มันคือทุกอย่างนั่นแหล่ะ รถแข่งที่อเนกประสงค์ที่เรามองหามาตลอด หลายคนพูดเสมอว่ารถแข่งคันนี้เป็นรถของมาร์ค มาเกซ ไม่ใช่หรอกครับ มันคือรถสำหรับนักแข่งฮอนด้าทุกคน พวกเรากำลังทำงานร่วมกันเพื่อสร้างรถที่มความสมบูรณ์มากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น การคอนโทรลที่ส่วนหน้าทำได้ดีขึ้น แต่หน้ากระดาษเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ทุกอย่างบนคอมพิวเตอร์อาจจะโอเคแล้วแต่การลงไปขับในสนามอาจจะไม่ตรงตามนั้นก็ได้ (จึงต้องใช้ข้อมูลหลายคนและเทสย้ำ ๆ หลาย ๆ สนาม)”

ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก MICHELIN
สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนรายการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ #singha #singhaworldofspeed #singhacorporation #motogp #Singhaworldofspeed2021 #singhamotorsport #singhamotoGP

Sign
NEXT RACE: Gran Premio GoPro de Aragon