ไม่ตรงปก ?
โมเดิล โมโต จีพีถูกครอบงำจากการจับคู่ของ“เด็กระเบิด”มาร์ค มาเกซและ Honda RC 213V ว่ากันว่านี่คือส่วนผสมของความสำเร็จที่แข็งแกร่งและกลายเป็นโจทย์ใหญ่ตัวเป้งที่นักแข่งทุกคนต้องหาคำตอบมาแก้ไขหากคิดที่จะขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของวงการสองล้อโลกในยุคหลัง
หลังการตู๊มที่เฆเรซ 2020 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป !?
ฮอนด้าไม่ได้ลิ้มรถชาดของชัยชนะเลยจากที่ริคาโด้ 2019 นักแข่งที่เหลือไม่สามารถขึ้นมาทดแทนได้สักคนเดียว หรือทั้งหมดมัดรวมกันก็ยังไม่สามารถถมที่ว่างที่มาร์คทิ้งไว้ได้เต็ม มาเกซต่อสู้กับความยากลำบากของอาการบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า และการรอคอยอันแสนยาวนานก็สิ้นสุดลงพร้อมกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่ยานแม่แห่งโมโต จีพีเห็นรำไรในต้นซีซั่น 2020
มาร์ค มาเกซ คัมแบ็กสู่การแข่งขันโมโต จีพีอีกครั้งในเกมส์ที่ปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกส นับถึงวันนี้ผ่านไปแล้ว 4 เรซที่มาร์คได้เก็บชั่วโมงบินพร้อมกับสร้างความคุ้นเคยให้กับร่างกายที่ร้างสนามไปนาน อย่างไรก็ดีเอเลี่ยนสเปนยังอยู่ห่างไกลจากฟอร์มที่เคยทำได้ และปัญหาร่างกายนั้นยังไม่ดีขึ้นจนร่ำๆ ว่าจะขอพักจากการแข่งขันอีกสักเบรกเลยทีเดียว
ปัญหาอยู่ที่มาร์คหรือตัวแข่ง ?
หลังการผุดไอเดียขอพักจากการแข่งขันของมาร์คแล้วรายงานล่าสุดน่าเหนื่อยใจก็คือ เจ้าตัวยังต้องพึ่งการกินยาปฏิชีวนะเพื่อยับยั้งการอักเสบของกระดูกอยู่(แผลที่หักหายแล้วแต่ป้องกันเนื้อกระดุกที่ถูกฝังด้วยน็อตจะอักเสบ) มาเกซกระดูกต้นแขนหักจริงแต่จุดนั้นหายแล้ว ปัญหาใหม่ที่ผุดมามันลามไปโผล่ที่ไหล่เสียอย่างงั้น
“....ผมไม่สามารถบังคับรถได้อย่างต้องการ ไหล่คือลิมิตที่ควบคุมไม่ให้ขับได้อย่างใจในตอนนี้ และทุกครั้งที่กลับไปพักจะมีอาการเจ็บ สัปดาห์ที่ไม่มีแข่งก็เจ็บ ไม่รู้ว่าทำไม ต้องหาสาเหตุและแก้ไข”
นี่คืออาการและเจ็บที่มาร์คไม่ดีขึ้นตามชั่วโมงบินที่เก็บมา จุดที่ไม่เกี่ยวกันนี้เคยเล่นงานนักแข่งจนต้องรีไทร์มาแล้ว หากยังจำกันได้ในเคสของ “ไอ้หมอกดำ”คาลล์ โฟกาตี้ กระดูกแขนหัก หายดีกลับมาสู่สนามได้อีกครั้งไหล่ทำงานร่วมกับแขนที่หายดีไม่สามารถขับได้เหมือนเดิมอีกครั้ง จนต้องเลิกราปิดตำนานแชมป์โลกในรายการซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้นชิพไป
มาร์คมีโอกาสมั้ย ?
ตอบยากส์ .... นั่นคือคำตอบที่ง่ายที่สุดที่จะตอบในตอนนี้ แต่เคสของมาเกซนั้นแตกต่างออกไป เพราะแขนที่หักและใช้เวลารักษาเป็นปีและหายแล้วก็จริง นั่นคือส่วนของแขน แต่มองไปที่ไหล่ก็ต้องบอกว่าไหล่ของมาร์คนั้นไม่ได้สมบูรณ์มาตั้งแต่ต้น เพราะหากจำกันได้ไหล่ข้างขวาของเด็กระเบิดก่อนเปิดซีซั่น 2020 มาร์คก็ต้องไปลงมีดผ่ารักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งส่งผลให้การทดสอบพรีซีวั่นนั้นยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวรถได้มาก แต่ก็หวังว่าจะฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับพัฒนาแต่งแต้มรถระหว่างการแข่งขัน นั่นคือแผนเดิมแต่มาพังพาบเพราะการเปรี้ยงที่เฆเรซ
มันจึงไม่ใช่แขนที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แต่เป็นไหล่ด้วยที่มีการสะสมอาการบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ เมื่อเทียบกับกรณีของโฟกาตี้นั้นมาร์คแลดูลำบากกว่าด้วยซ้ำ เพราะแขนที่เจ็บยังลุ้นไหล่ช่วยอุ้มได้บ้างในการขับ แต่นี่ไหล่ก็เจ็บมาก่อนลักษณะมันจึงออกมาในแนวเตี้ยอุ้มค่อม ทำให้ไม่มีคำตอบให้ชัดเจนว่า ที่ลงไปขับนั้นแล้วไม่ได้ดังที่สั่งจากหัวสมองมาจากแขน หรือไหล่ หรือทั้งสอง มาร์ค มาเกซเจ้าของทั้งแขนทั้งไหล่ก็ยังไม่รู้ (แล้วเราคนดูจะรู้มั้ย ?)
นี่ยังไม่จบ ยังมีมิติของตัวแข่งคู่กายอย่าง Honda RC213v ตีคู่มาติด ๆ
ป้องปากลือกันมาตลอดว่าฮอนด้าพัฒนารถเพื่อสนองสไตล์สการขับของมาร์ค มาเกซแต่เพียงผู้เดียวจนนักขับคนอื่นขี่ไม่ได้ เพราะมาเกซคือคนที่ตอบแทนต้นสังกัดด้วยผลงานที่ชัดเจนที่สุด ดังนั้นตราบใดที่มาร์คยังอยู่ รถคันนี้ก็จะไม่มีใครเอาลงมา(แนบโค้ง)ได้
แต่ก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้ทฤษฎีนี้ผิดอย่างสิ้นเชิง !
2021 Honda RC213v ไม่เพียงแต่นักแข่งฮอนด้าคนอื่น ๆ ขับไม่ได้เท่านั้นแม้นแต่ตัวของมาร์ค มาเกซเองก็ขับไม่ได้เหมือนกัน เพราะทิศทางการพัฒนาของมันไม่ได้ถูกเลือกจากมาร์คหรือนักแข่งคนอื่น ๆ แม้นแต่คนเดียว หา !!!
ก่อนซีซั่น 2020 การทดสอบที่การ์ตา(แต่ไม่ได้แข่งเนื่องจากโควิด) ฮอนด้ามีตัวแข่งโมเดล 2020 ที่เตรียมจะยื่นสเปคลงทำการแข่งขันมาทดสอบเป็นครั้งสุดท้าย ขณะเดียวกันในพิทบ็อกซ์ของอิเดมิสึ แอลซีอาร์นั้น ตัวแข่งของทากะอะกิ นางะกะมิมีรถเวอร์ชั่น 2019 อยู่ด้วย นั่นคือรถที่ฮอนด้าประสบความสำเร็จมาอย่างมากและลงตัวสุด ๆ
ตัวแข่ง 2020 มาเกซทดสอบและไม่เป็นที่พอใจนักในวันแรก ช่วงท้ายของโปรแกรมเอาตัว 2019 กับไปทดสอบอีกครั้งและเจ้าตัวก็เลือกสเปครถเวอร์ชั่นเก่าว่ามันตอบโจทย์มากกว่า(เลือกว่าดีไม่เลือกยื่นสเปคนะ) คำตอบของฮอนด้าและมาร์คจึงไม่ชัดเจน ท้ายที่สุดก็จิ้มไปที่ตัวใหม่ด้วยหวังว่า จะเติมจุดแข็งของตัวเก่าไปได้ด้วยการขี่ของมาร์คระหว่างปีการแข่งขัน
จากนั้นเกมส์มาเริ่มต้นกันที่เฆเรซ ซึ่งมาเกซบาดเจ็บหนักต้องพลาดการแข่งขันตลอดปี 2020 พร้อมกับผู้จัดการแข่งขันประกาศว่า ซีซั่น 2021 จะไม่มีการพัฒนาเครื่องยนต์ใดใดเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจที่โดนเล่นงานจากโควิด นี่คือโจทย์ใหญ่ที่เข้ามาท้าทายฮอนด้าพร้อมกัน 2 โจทย์แบบไม่ให้ตั้งตัว พวกเค้าแก้ปัยหาเฉพาะหน้าโดยที่ฮอนด้าใช้งานสเตฟาน แบรดเดิลลงทำหน้าที่แทนมาร์ค มาเกซ ว่ากันว่ามันคือมุมดีดีที่พวกเค้าได้เทสไรเดอร์มาเก็บข้อมูลจากการแข่งขันจริงเต็มซีซั่น เพื่อพัฒนารถที่สำคัญสุด ๆ ภายในกติกาที่ห้ามเปลี่ยนแปลงจุดหลัก ๆ (ที่มาร์คไม่ค่อยโอเคนักจากการทดสอบที่การ์ตา)
ตัวแข่ง 2020 จึงเป็นรถที่พัฒนาโดยแนวทางของสเตฟาน แบรดเดิลในฐานะนักแข่งทีมโรงงานบวกเทสไรเดอร์ ขณะที่เพื่อนร่วมทีมอย่างอเล็กซ์ มาเกซนั้นไม่ได้รับบทบาทนี้มากนักเนื่องจากเป็นรุกกี้ ทากะอะกิ นางะกะมิก็ได้ขับรถเวอร์ชั่นเก่าซึ่งก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ ขณะที่อีกคนคือคาลล์ ครัชโลวว์ซึ่งถูกตัดออกจากการมีส่วนร่วมในการทดสอบ เพราะเจ้าตัวไม่ได้ต่อสัญญาและสถานีถัดไปคือการมาเป็นเทสไรเดอร์ให้กับยามาฮ่า
ตัวแข่ง 2020 จึงเป็นตัวแข่งที่ไม่ค่อยลงตัวนักแม้นกับมาร์ค มาเกซ
ตัวแข่ง 2021 ถูกถีบห่างออกจากมาร์ค พร้อมกับนักแข่งคนอื่น ๆ ไปด้วย
ดังนั้นเวลานี้ Honda RC213v จึงไม่ใช่รถที่ปั้นมาเพื่อมาร์ค มาเกซคนเดียวแล้ว เพราะสารตั้งต้นของมันยังไม่ค่อยลงตัวกับนักขับมือหนึ่งคนนี้ แต่แผนที่จะเกลามันระหว่างฤดูกาลตัดตกไปจากการบาดเจ็บของมาร์คปีที่แล้ว แบรดเดิลมารับหน้าที่แทนแม้นสไตล์สว่ากันว่าเหมือนมาร์คก็จริง แต่นักทดสอบก็คือนักทดสอบ ข้อมูลจริงๆ จากลิมิตแท้ๆ ในเกมส์จริง ยังไงก็เป็นรองนักแข่งที่สามารถรีดมันไปจนถึงลิมิต รถมันจึงถูกถีบออกไปจากมาร์คมากกว่าเดิมด้วยที่มาดังหล่าว
ไม่ต้องพูดถึงนักแข่งคนอื่น ๆ โปลล์ เอสเปกาโร่นี่มานับหนึ่งใหม่ก็ยาก, อเล็กซ์ยิ่งลำบากกว่าอยู่กับทีมโรงงาน มีเพียงทากะอะกิ ที่พอมีความรู้สคึกกับการขับรถเก่าอยู่บ้างที่พอโดดเด่นบ้าง แต่ความชัวร์ก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอันโต
จะเรียกว่าโชคไม่เข้าข้างฮอนด้าเลยก็ว่าได้ เมื่อกฎของโมโต จีพีเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ทีมใดที่ทำแต้มโพเดียมได้ไม่ถึง 6 คะแนนตลอดซีซั่น จะมีสิทธิ์ในการลงแข่งด้วยกติกาแฟคทอรี่รอง คือพัฒนารถแข่งได้ เทสได้ไม่จำกัด น้ำมันเยอะกว่า ยางเยอะกว่า (แบบอพลิเลียตอนนี้) และฮอนด้าก็ทำแต้มได้ไม่พอจากผลงานจุ๋มจิ๋มของอเล็กซ์ มาเกซ (2 โพเดียม)
มุมนี้หากว่ากันตามกติกาฮอนด้ายังพอมีโอกาสฟื้นมากกว่านี้ แต่ปรากฏว่าผู้จัดดันประกาศดื้อ ๆ ว่า กฎนี้จะบังคับกับการให้โทษเท่านั้นในซีซั่น 2021 เป็นกรณีพิเศษ ทำให้เคทีเอ็มโดนดันไปเล่นแฟคทอรี่แท้ ขณะที่ฮอนด้าไม่ได้เลื่อนลงมาเล่นแฟคทอรี่รอง เพราะกฎให้แค่โทษแต่จะไม่ให้คุณใดใด... ในปีนี้ นะจ๊ะ
มาร์ค มาเกซ พยายามและทุ่มเททุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้วในตอนนี้ ด้วยหัวใจทุกเซลล์ของร่างกาย ไม่เพียงแต่ปัญหาที่อวัยวะมันไม่ตามสั่งเท่านั้นแต่สิ่งที่สำคัญก็คือ เหมือนกับว่า RC213v จะไม่ใช่รถของมาร์คอีกต่อไป และแนวทางที่ฮอนด้าพยายามทำรถให้เป้นรถแข่งของนักแข่งทุกคนดูเหมือนว่า เข็มทิศของมันเป้าหมายยังชัดเจนนัก เพราะนักแข่งคนอื่น ๆ ก็ยังมึนและมืดแปดด้านกันอยู่
กลยุทธ์ลอกการบ้านของมาเกซในการเกาะวิญญาเลสและได้เวลาพร้อมตีตั๋วในรอบควอลิฟาย Q2 แสดงให้เห็นว่ามาร์คมีร่างกายและความเร็วมากพอที่จะขึ้นสู่การไปสูดอากาศด้านบนได้หากมี “ไกด์” ที่ดีพอ แต่เมื่อเค้าต้องหิ้วรถคันเดียวซึ่งไม่ใช่รถที่ถูกพัฒนามาโดยทัศนะการปรับปรุงของเค้ามันจึงพบกับความยากลำบากแบบโค้งต่อโค้ง
ปัญหาของพวกเค้ามันจึงจะยังไม่จบที่ร่างกายของมาร์ค มาเกซกลับมาสมบูรณ์เท่านั้น แต่มันอยู่ที่การจะพัฒนาและปรับปรุงรถให้กลับมา “ลงตัว” ในทิศทางที่ถึงลิมิตได้อย่างไร หรืออาจจะต้องเป็นไปตามคำแนะนำของยอดยูทูบเบอร์คนนั้นว่า จงใช้เวลาของฤดูกาลนี้เพื่อพัฒนาและเก็บข้อมูลสำหรับรถเวอร์ชั่นต่อไป เพื่อจะเริ่มต้นด้วยการเป็น “ยานแม่ที่แท้จริง” ในซีซั่นหน้า....
อย่าเชื่อแอ๊ด แอ๊ดเดาเอา อ้าว !
MTF มีกลุ่มเปิดแล้ว
https://www.facebook.com/groups/668603413931376/
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก MICHELIN
สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนรายการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ #singha #singhaworldofspeed #singhacorporation #motogp #Singhaworldofspeed2021 #singhamotorsport #singhamotoGP