เรซ ทู เดอะดรีมเสริมแกร่งพัฒนารอบด้าน อัดวิทยาศาสตร์การกีฬาพร้อมโปรแกรมซ้อมเดิร์ทยกระดับศักยภาพ

คุณจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานกีฬายานยนต์และส่วนงานขับขี่ปลอดภัย เอ.พี. ฮอนด้า ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงนโยบายด้านมอเตอร์สปอร์ตเพื่อลุยศึกการแข่งขันประจำปี 2021 ของฮอนด้า กับความมุ่นมั่นในโครงการ “เรซ ทู เดอะดรีม” เพื่อพัฒนานักแข่งไทยสู่การแข่งขันรายการชิงแชมป์โลก และเป้าหมายอันดับที่ 1 คือการส่งนักแข่งไทยลงทำการแข่งขันในรุ่นโมโต จีพีภายในปี 2025 โดยยืนยันว่า นอกจากความตั้งใจยังเต็มที่เหมือนเดิมแล้ว ยังเสริมการฝึกฝนและการพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่จะช่วยยกระดับเยาวชนนักแข่งของไทยอีกด้วย

วิทยาศาสตร์การกีฬาในเรื่องโภชนาการและการดูแลเพาะรายบุคคล การซ้อมแบบเดิร์ทแทร็คเพื่อพัฒนาทักษะและความพร้อมของร่างกาย ควบคู่ไปกับการเรียนรู้เรื่องของช่างและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อที่จะสื่อสารกับทีมแม็คคานิกซ์ที่เซ็ทรถให้ได้อย่างถูกต้อง คือประเด็นสำคัญที่ฮอนด้าจะนำมาใช้เพื่อการพัฒนานักแข่งในโครงการประจำฤดูกาล 2021 นี้

คุณจุฑามาศ อินปริงกานันท์ (ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานกีฬายานยนต์และส่วนงานขับขี่ปลอดภัย เอ.พี. ฮอนด้า)

“.....จากโครงการเรซ ทู เดอะดรีม ปีนี้เป็นปีที่ 5 แล้ว และเรายังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป ตอนนี้เรามีน้องก้องและน้องก็องค์ที่อยู่ในการแข่งขันระดับโลก เราได้ประสบการณ์และความรู้ว่า ทีมระดับโลกเค้าทำงานยังไง เทรนนักแข่งยังไง เราได้เรียนรู้จากตรงนั้นและเอามาพัฒนาเป็นระบบเพื่อสร้างเด็กไทยของเราตั้งแต่อะคาเดมี่ขึ้นไปเลย

ปีนี้เราเน้นไปที่เรื่องของร่างกาย ความแข็งแกร่งของร่างกาย กล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น ความทนทานต่าง ๆ เพราะฉะนั้นวิทยาศาสตร์การกีฬาจะเข้ามามีบทบาท ทั้งในเรื่องของอาหารการกิน โถชนาการ การออกกำลังกายที่เหมาะสมแต่ละคน เพราะเด็ก ๆ แต่ละคนนั้นมีขนาดร่างกาย กล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน จะมีการดูแลเฉพาะคนที่เหมาะสมให้

ทักษะการขับขี่เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เยอะ นอกจากทางเรียบแล้วเราจะเอาทางฝุ่นเข้ามาเสริม น้อง ๆ ทุกคนจะได้ขับและเสริมทักษะการขับแบบเดิร์ท และความรู้ด้านช่างก็มีความสำคัญ เด็กๆ และนักแข่งควรจะมีความรู้เกี่ยวกับตัวรถด้วยเพื่อที่จะสื่อสารกับช่างได้อย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นการทำงานเป็นทีมก็จะดียิ่งขึ้น

สำหรับอะคาเดมีเรื่องของร่างกายจำเป็นต้องทนทานเพื่อยืนระยะให้ได้ 30 กิโลเมตรหรือว่า 30 นาที ถ้าโตมาอีกหน่อยในไทยแลนด์ทาเล้นท์ก็จะอัพขึ้นมาอีกเป็น 70 กิโลเมตร ความเข้มข้นมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะก้าวขึ้นไปสู่การเป็นนักแข่งระดับโลก ทั้งหมดทั้งมวลเราต้องการโค้ชมืออาชีพที่จะมาช่วยดูแลและผลักดันเพื่อเป็นไปในทิศทางที่ถูกตลอด ดังนั้นเรายังได้รับความร่วมมือจากชินนิชิ อิโตะหรือมาโกโตะ ทามาดะมาดูแลเราตลอดทั้งโรงการเหมือนเดิม”

#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #HondaRacingThailand #MotorSport

Sign
NEXT RACE: Gran Premio GoPro de Aragon