“เจ้าอมยิ้ม”ฆอเก้ โรเลนโซ่ นักเลงเพลงชาวสเปน แชมป์โลก 5 สมัยและห้ามเรียกว่าอดีตแชมป์โลกโดยเด็ดขาด หลังการรีไทน์จากวงการความเร็วอย่างแท้จริงเจ้าตัวก็ได้พบกับชีวิตที่รียกได้ว่า “ที่ชอบๆ” เมื่อได้ทำอะไรตามที่ต้องการ และมีโลกออนไลน์ให้ได้ลับฝีปากกับใครก็ตามที่แพลมเข้ามาในเรดาห์
เจ้าตัวตะบันชีวิตมามากมายในเส้นทางนักแข่ง พบกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดมาแล้ว ซึ่งโรเลนโซ่ได้เปิดเผยย้อนหลังแบบยาวๆ ถึงเหตุผลในการเลือกเซ็นต์ย้ายค่าย และรีไทน์ในช่วงเวลาต่าง ๆ เอาเป็นว่าไม่อธิบายให้มากความ ไปเสพที่พี่หลามให้เอาไว้กันเลยครับ
ฆอเก้ โรเลนโซ่
“........ก่อนที่จะชนะกับดูคาติได้ที่มูเจลโล่ (2018) ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ๆ ผมไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่ต้องการ ดูคาติต้องการจ้างนักแข่งคนใหม่ และผมต้องหาทางแก้ไข ผมยังคงอยู่ในเชพที่ดีนะในการเป็นนักแข่งในตอนนั้น สภาพร่างกายของผมยังดี ผมยังเร็วได้ แต่มันมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผมไม่สามารถทำผลงานที่ดีได้ และผมต้องถูกเด้งออกมา
มีข้อเสนอมาจากเปโตรนาส มีโอกาสมากที่จะไปที่นั่นแบบเกือบแล้ว ผมพร้อมและเรากำลังจะเซ็นต์สัญญากัน แล้วจู่ ๆ ข้อเสนอจากฮอนด้าก็เข้ามา ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ ความฝันของนักแข่งก็คือครั้งหนึ่งอยากได้ลงสนามแข่งให้กับฮอนด้า(แฟคทอรี่) อย่างน้อยก็สักครั้งในชีวิต ซึ่งมันเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะฝันถึงการชนะกับรถแข่งโมโต จีพี 3 ยี่ห้อเป็นคนแรกด้วย
แต่ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปในทางที่ดี อาการบาดเจ็บของผมที่สะบัก (กระดูก) ตัวแข่ง 2019 มันก็ยากที่จะขี่ (เมื่อไม่สมบูรณ์) การบาดเจ็บเข้ามามีส่วนสำคัญและมันก็กลายเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของผม ผมไม่เคยสักครั้งที่สามารถต่อสู้กับคนอื่นได้เลย ไม่เคยคว้าผลงานที่ดีได้ และการบาดเจ็บอีกครั้งที่เอสเซ่นก็ช่วยให้ผมตัดสินใจได้เคลียร์ขึ้น หากไม่เจ็บที่นั่นผมอาจจะแข่งต่อ อาจจะสู้ต่อ แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่มีผลกับความคิดของผมมากและการรีไทน์ก็ตกผลกออกมาหลังจากการไตร่ตรอง
ผมพยายามที่จะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งที่ซิลเวอร์สโตน และดูว่าจะเป็นยังไง ผมจะสามารถหาแรงจูงใจได้อีกหรือไม่ แต่ผมไม่มีความอดทนที่จะอยู่ในสถานการณ์นี้ ถ้าผมไม่สามารถขึ้นไปชนะได้ผมก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้ผมอยู่ในอาชีพนี้ได้ก็คือการลงสนามเพื่อชนะ ผมพยายาม ยากลำบากมาก ๆ กับการขี่ฮอนด้าแต่มันไม่มีผลลัพธ์ที่ดีออกมาเลย
มันเป็นเรื่องยากมากกับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะเหมือนผมไม่สามารถตอบแทนความไว้วางใจที่ฮอนด้าและอัลเบอ์โต้ พูอิกซ์มอบให้กับผมได้เลย คือมันไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ ฮอนด้าคือทีมที่เป็นผู้ชนะแต่ผมไม่สามารถทนอยู่ได้หากทำได้เพียงอันดับที่ 10 – 15 เท่านั้น ผมยากลำบากที่นั่น และมันยิ่งต้องทุกข์มากเมื่อเทียบสิ่งที่ผมทำได้กับสิ่งที่ได้รับจากพวกเค้า
ผมไม่เสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา เพราะมันไม่สมเหตุสมผลที่จะไปนั่งเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาแล้วและย้อนไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ แต่ใครจะรู้หากผมชนะที่ดูคาติเร็วขึ้นกว่าที่ทำได้สักเดือนนึง ผมอาจจะไม่มานั่งเม้าท์เรื่องนี้ที่ตรงนี้ก็ได้ แต่ผมนั่งมองเส้นทางอาชีพตัวเอง ผมก็มีความสุขนะ ผมเป็นนักแข่งที่โชคดี เป็นผู้ชายที่โชคดีมาก และผมก็ควรมีความสุขกับมัน
การกลับมาที่ยามาฮ่า ทันทีที่ผมประกาศรีไทน์ ยามาฮ่าก็แสดงความสนใจทันที มันดูเหมือนเป็นบทบาทที่สมบูรณ์แบบนะกับการเป็นเทสไรเดอร์ ได้ขี่มอเจอร์ไซค์โดยไม่ต้องกดดันกับผลการแข่งขัน ได้มีบทบาทสำคัญในโปรเจ็คการพัฒนา และรถที่ผมขับก็เป็นรถที่ผมทำได้ดี มันเหมาะกับสไตล์สของผมด้วย ผมถามตัวเองว่า ทำไมผมจะไม่เอาหล่ะ มันเป็นจุดที่ดีที่ผมจะได้รับโดยที่ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะเจอผลการแข่งหรืออะไรที่แย่ที่สุด(คือไม่มีเสียแน่นอน)
การกลับมาที่ยามาฮ่าผมได้พบกับความรู้สึกที่คุ้นเคยอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะว่าที่ดูคาติหรือฮอนด้าปฏิบัติกับผมไม่ดีนะ ตรงกันข้ามเลยทั้งสองทีมปฏิบัติกับผมอย่างดีที่สุดและมอบทุกอย่างที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับผม ผมมีเพื่อนอยู่ทุกทีม แต่ที่ยามาฮ่ามันต่างออกไปเพราะรถแข่งที่นี่ผมรู้สึกคุ้นเคยมากกว่า
เวลาเป็นยารักษาทุกอย่างที่ดี มันทำให้มนุษย์สามารถลืมความรู้สึกที่ผ่านมาได้ ทั้งแง่ลบและแง่บวก และพอเวลาผ่านไปแฟน ๆ ก็เริ่มเข้าใจถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผมทำได้มากขึ้นนิดหน่อย หรืออาจะเพราะในฐานะคนคนหนึ่งผมเปลี่ยนไปด้วย
สำหรับนักแข่งยามาฮ่า ถ้าคุณได้รู้จักฟาบิโอจริง ๆ ในฐานะคนคนนึงคุณจะรู้ว่าเค้าไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร และเป็นคนรวยรอยยิ้มอยู่เสมอ เค้าจะเปลี่ยนไปมากเมื่ออยู่ในเกมส์การแข่งขัน มีพลังขับมากมาย แต่เมื่อเค้าถอดหมวกกันน็อกออกไป เค้าจะเป็นเด็กที่น่ารักและและดูฉลาด ผมไม่คิดว่าจะมีใครที่ไม่ชอบเค้า
ตอนนี้ยามาฮ่ามีทีมที่มีอนาคตที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ผมคิดว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมมีความรู้สึกอยากให้คนอื่นชนะโดยที่ไม่ใช่ตัวผมเอง ผมไม่สามารถลุ้นแชมป์ได้ในปีก่อน ผมจึงมีความสุขที่มาร์คทำได้(ตอนอยู่เรปโซล) และตอนนี้ผมต้องการเห็นคนที่ทำได้คือมาเวอร์ริค, ควอตาราโร่, วาเลนติโน่ และหวังว่าโมบิเดลลี่ก็จะสามารถทำได้เช่นกัน
ความสัมพันธ์ของผมกับวาเลนติโน่ในอดีตหน่ะเหรอ มันยากนะที่จะสนิทสนมกับคู่แข่งโดยตรงของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เราทั้งคู่กำลังพีคในโมโต จีพี นั่นทำให้ยากต่อการสื่อสารพูดคุยกันของเราทั้งคู่ ยากที่จะเอาใจใส่อีกฝ่าย คุณไม่ต้องการเกลียดพวกเค้าหรอก แต่คุณต้องการที่จะให้พวกเค้าช้ากว่าคุณ ให้ตัวคุณเองอยู่เหนือและชนะพวกเค้า ผมพูดเสมอว่า กับวาเลนติโน่ เรายิ่งห่างกันเท่าไหร่ความสัมพันธ์ของเราจะยิ่งดีเท่านั้น ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดที่เรามีต่อกันคือตอนที่ผมอยู่ดูคาติเค้าอยู่ยามาฮ่า และผมอยู่ยามาฮ่าเค้าอยู่ดูคาติ”
MTF มี Channel YOUTUBE แล้ว #ฝากติดตามด้วยครับ
https://www.youtube.com/channel/UCx83j-F4TqDylE7SqbkvLuw?view_as=subscriber
MTF มีกลุ่มเปิดแล้ว
https://www.facebook.com/groups/668603413931376/
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก Box Repsol
สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนรายการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ #singha #singhaworldofspeed #singhacorporation #motogp #Singhaworldofspeed2020 #singhamotorsport #singhamotoGP