แม้นจะเป็นรถแข่งที่ชนะมากที่สุดในโมโต จีพีปีนี้ก็ตาม แต่ Yamaha YZR M1 ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถไปถึงความสำเร็จได้อีกครั้ง พวกเค้ามีนักแข่งระดับหัวกะทิเต็มทีมแต่กลายเป็นว่าสลับกันขึ้นมาทำผลงานมากกว่าที่จะแสดงความสม่ำเสมอ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ตัวแข่งพร้อมเปิดให้เห็นปัญหาเป็นระยะ
นักแข่งยามาฮ่าที่ใช้ตัวแข่งเวอร์ชั่น 2020 อย่างฟาบิโอ ควอตาราโร่, มาเวอร์ริค วิญญาเลส และวาเลนติโน่ รอสซี่ ออกมาให้ทัศนะกระซุ่นถึงต้นสังกัดว่า ส้อมเสียงทีมควรจะฟังข้อมูลจากการขับขี่และความต้องการของนักแข่งบ้าง เพราะนี่คือคนที่ขี่รถในสนามและรู้ว่ารถเป็นยังไง
ฟาบิโอ ควอตาราโร่(แพ็ดด็อค จีพี)
“.......มันเหลือเชื่อมาก ผมไม่สามารถหาฟิลลิ่งได้เลย ไม่ว่าจะทำอะไรลงไปกับรถแข่งผลมันก็ออกมาเช่นเดิม ดังนั้นทางเลือกสุดท้ายผมจึงปรับตัวผมเองเข้าไปหารถ ผมเชื่อว่าเราพยายามอย่างมาก ในช่วงสัปดาห์นี้เราเปลี่ยนแปลงรถมากกว่าปีที่แล้วทั้งปีเสียอีก
ผมจะพูดคุยกับวิศวกรของยามาฮ่า และพวกเค้าควรจะฟังเรา เรามี 3 นักแข่ง(ที่ใช้รถใหม่)ผลักดัน(การพัฒนารถ)ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งมันสำคัญมากๆ พวกเค้าต้องฟังเราผมบอกเลย”
วาเลนติโน่ รอสซี่(โมโตซาน ดอทอีเอส)
“.......ปัญหาก็คือฤดูกาลที่แล้วก็เป็นเรื่องยากสำหรับยามาฮ่า เราจะต้องปรับปรุงรถแข่งในบางจุด อย่างแรกเลยคือเครื่องยนต์ ครั้งแรกที่ผมได้ทดสอบรถคันใหม่ผมรู้สึกได้เลยว่ามันไม่ได้แตกต่างจากคันเก่ามากนัก ซึ่งจริงๆ แล้วมันหมายความว่ามันมีความเหมือนกันมาก และมันหมายความอีกว่าพวกเค้าไม่ได้พัฒนามันไปข้างหน้าเลย
ผมมักจะบอกความรู้สึกที่ผมมีต่อรถเสมอว่าเป็นยังไง ปัญหาที่ตามผมมาในปีนี้ก็คือปัญหาที่อยู่กับผมปีที่แล้ว มันคล้ายกันแทบจะเหมือนกัน ผมไม่แน่ใจว่าพวกเค้า(ยามาฮ่า)ได้ฟังผมบ้างหรือเปล่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ดังนั้นมันทำให้ผมกังวลไม่น้อยในการร่วมงานกับทีมรอง(ปีหน้า)เพราะผมคิดว่ามันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปนัก(ทีมโรงงานและพัฒนาจะใช้แนวทางของนักแข่งโรงงาน)
ผมบอกตรงนี้ชัดๆ อีกครั้งว่าผมชอบทำงานกับยามาฮ่านะ ผมมีประสบการณ์กับรถคันนี้มากมายและผมคิดว่าผมก็เร็วพอ ดังนั้นผมให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดแก่พวกเค้า แต่เรายังไม่สามารถพัฒนาได้มากพอ
(การห้ามพัฒนาเครื่องยนต์ในปีหน้า)ผมไม่คิดว่าจะทำให้เราทำอะไรไม่ได้ จริงอยู่ที่เรามีจุดอ่อนอยู่ที่เครื่องยนต์เหมือนกัน แต่รถโมต จีพีมีหลายอย่างให้ทำได้แม้นว่าจะไม่ต้องตรงไปที่เครื่องยนต์เลย หากยามาฮ่าจะทำยังมีแนวทางอีกเยอะให้ทำ”
มาเวอร์ริค วิญญาเลส(โมโตซาน ดอทอีเอส)
“.......ปัญหาหลักเลยก็คือ เมื่อเราขาดการยึดเกาะในช่วงท้าย(เมื่อกริปเริ่มหายยางเริ่มหมด)เราจะพบกับความยากลำบากอย่างมาก แต่ถ้าหากมีการยึดเกาะที่ดี M1 ก็สู้กับใครก็ได้ แต่เมื่อเจอปัญหานี้เราก็พยายามทำอย่างเต็มที่ที่ทำได้ ซึ่งปัญหานี้มันไปส่งผลต่ออัตราเร่งที่เราสามารถชาร์ทออกจากโค้งได้อีกด้วย
M1 ของปี 2019 และ M1 ปี 2020 ทุกอย่างทำออกมาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งแชสซี เครื่องยนต์ มันไม่มีประโยชน์ที่ผมจะไปทิ้งความรู้สึกเอาไว้กับรถแข่งที่โมบิเดลลี่ขับ(วิญญาเลสขี่ปีที่แล้ว) ผมต้องตั้งสมาธิและแก้ไข ปรับปรุงรถปีนี้ท่ามกลางอะไรที่เรียกว่าฝันร้าย ปีที่แล้ว M1 สามารถต่อสู้ได้ทุกสนาม แต่ปีนี้เราทำได้เพียงบางสนามเท่านั้น
สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำงานและสร้างแผนงานที่จะเป็นประโยชน์ในปีหน้า เพื่อที่เราจะสามารถต่อสู้ได้ อย่างที่บอกเราไม่มีการยึดเกาะที่ดีพอในส่วนท้าย รถมันลื่นและขี่ยาก
ผมได้บอกยามาฮ่าตั้งแต่ต้นซีซั่นแล้วว่า รถคันนี้ขี่ออกมาแล้วมันไม่ได้แตกต่างจากปีที่แล้ว เราทำพลาดในการเลือก(สเปค)รถ ข้อมูลของผมออกมาชัด ในเซปังผมยืนยันกับยามาฮ่าว่าผมชอบคันใหน ซึ่งมันคือคันที่สืบเชื้อสายมาจากปีที่แล้ว แต่ท้ายที่สุดเราเลือกรถคันนี้ ผมหวังว่ายามาฮ่าจะฟังผมมากขึ้น ผมอยู่ที่นี่มา 4 ปีแล้วและมีข้อผิดพลาดมากเกินไป”
MTF มี Channel YOUTUBE แล้ว #ฝากติดตามด้วยครับ
https://www.youtube.com/channel/UCx83j-F4TqDylE7SqbkvLuw?view_as=subscriber
MTF มีกลุ่มเปิดแล้ว
https://www.facebook.com/groups/668603413931376/
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก MICHELIN
สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ผู้สนับสนุนรายการแข่งขันโมโตจีพี อย่างเป็นทางการ #singha #singhaworldofspeed #singhacorporation #motogp #Singhaworldofspeed2020 #singhamotorsport #singhamotoGP